Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

เฟดลดดอกเบี้ยสู่ 3.50% จุดเปลี่ยนตลาดเงินโลก – ตลาดคริปโตฟื้นตัวระวังแรงผันผวน

บริษัทเอเอ็มแมเนจเมนต์(AM Management)เปิดเผยในรายงานประจำสัปดาห์ว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ(FOMC)เมื่อเดือนธันวาคม 2025 ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดการเงินโลก โดยเฟดได้เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย และชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มของนโยบายทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย ‘ข้อมูลเศรษฐกิจ’ มากกว่าการคาดเดาเชิงล่วงหน้า ซึ่งสถานการณ์นี้อาจส่งผลต่อทั้งตลาดสินทรัพย์ทั่วไปและตลาดคริปโตโดยตรง โดยเฉพาะในแง่ของ ‘แรงซื้อขาย’ และ ‘ความเชื่อมั่น’ ของนักลงทุน

ในการตัดสินใจครั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3.50–3.75% นับเป็นการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ในปีเดียวกัน ซึ่งสะท้อนถึงการสิ้นสุดของวัฏจักรการเงินแบบเข้มงวด และเข้าสู่ช่วงของ ‘การผ่อนคลาย’ อย่างเป็นทางการ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์(Jerome Powell) ย้ำว่า นโยบายที่ใช้ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกระตุ้นเชิงรุก แต่เป็นการตอบสนองจากข้อมูลที่สั่งสมมาก่อนหน้า โดยแม้มาตรการซื้อพันธบัตรระยะสั้นจะถูกเรียกใช้อีกครั้ง แต่ไม่ได้เทียบเท่ากับ ‘คิวอี’ โดยตรง ความเคลื่อนไหวนี้จึงเน้นย้ำถึงหลัก ‘นโยบายตามข้อมูล’ ไม่ใช่ ‘คาดการณ์ล่วงหน้า’

เอเอ็มแมเนจเมนต์มองว่าการตัดสินใจครั้งนี้มิใช่เพียงนโยบายเฉพาะของสหรัฐ แต่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนระดับโลก โดยธนาคารกลางในยุโรป (ECB), อังกฤษ (BOE) และญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มแสดงท่าทีแตกต่างกันมากขึ้น ทำให้ตลาดสินทรัพย์ทั่วโลกเข้าสู่ช่วงที่ต้องจับตานโยบายรายประเทศเป็นรายกรณีมากกว่าความหวังในทิศทางผ่อนคลายทางเศรษฐกิจแบบกว้าง

ตลาดคริปโตในช่วงเดียวกันเริ่มฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดและยังไม่มีแนวโน้มชัดเจน ขณะที่ ‘อีเธอเรียม(ETH)’ มีการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนในตลาด (Dominance) บ่งชี้ว่าเงินทุนบางส่วนไหลออกจากบิตคอยน์สู่เหรียญทางเลือก (altcoin) ในขณะเดียวกัน มูลค่ารวมของคริปโตทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2.38% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 3.01 ล้านล้านดอลลาร์ โดยดัชนีอิทธิพลของบิตคอยน์ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 59.40% ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดเริ่มเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี ความผันผวนระยะสั้นอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงสัปดาห์ต่อ ๆ ไป เนื่องจากมีเหตุการณ์สำคัญในตลาดคริปโต เช่น การปลดล็อกเหรียญของโปรเจกต์ใหญ่ ๆ อย่าง Starknet, Arbitrum และ LayerZero รวมถึงการอัปเกรดเมนเน็ตในบางสายที่อาจกระทบต่อปริมาณอุปทานของเหรียญ

ในส่วนของเทเธอร์(USDT) ดัชนี Dominance ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 6.25% แต่ไม่สามารถฝ่าแนวต้านบนออกไปได้ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้มีความสำคัญต่อโอกาสรีบาวด์ของบิตคอยน์ในระยะสั้น โดยหากเทเธอร์หมดแรงขึ้นและย่อลงอีกครั้ง อาจเป็นสัญญาณว่าบิตคอยน์กำลังสะสมแรงฟื้นตัวเพิ่มเติม ข้อมูลทางเทคนิคยังชี้ว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันของกราฟรายวันอาจกลายเป็น ‘จุดตัด’ สำคัญในการกำหนดทิศทางแนวโน้มต่อไปของบิตคอยน์

ทั้งนี้ รายงานของเอเอ็มแมเนจเมนต์เตือนว่า แม้นโยบายการเงินของเฟดจะเริ่มเข้าสู่เฟสผ่อนคลาย แต่อย่าตีความว่าเป็น ‘สัญญาณบวกแบบไม่มีเงื่อนไข’ ต่อราคาทรัพย์สิน นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับ ‘เกณฑ์ข้อมูลที่ใช้ชี้นำการตัดสินใจครั้งต่อไป’ มากกว่าการเฝ้ารอเพียงแค่การลดดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ

‘ความคิดเห็น’: สิ่งที่ตลาดต้องจับตาต่อไปคือ ดัชนีการจ้างงานของสหรัฐ ดัชนีผู้บริโภค(CPI), ดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล(PCE) และดัชนี PMI ภาคการผลิต ซึ่งจะเป็นตัวชี้ว่าธนาคารกลางจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องได้หรือไม่ และสะท้อนถึงทิศทางที่แท้จริงของเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงฟื้นตัว

สรุปแล้ว การลดดอกเบี้ยของเฟดถือเป็นปัจจัยเชิงบวกในภาพรวม แต่ด้วยนโยบายการเงินที่ยึด ‘ข้อมูลเป็นศูนย์กลาง’ นักลงทุนในตลาดคริปโตควรให้ความสำคัญกับการตีความ ‘แนวโน้มข้อมูลเศรษฐกิจ’ มากกว่าการเก็งกำไรจากข่าวเฉพาะหน้า

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1