Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) ครอง 90% รายได้ดีไฟ ยืนหนึ่งศูนย์กลางการเงินโลกคริปโต

แม้ว่าราคาอีเธอเรียม(ETH) จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่ในด้าน ‘ดีไฟ(DeFi)’ หรือระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ อีเธอเรียมกลับยิ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่เข้มแข็งมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดการให้กู้ยืมบนบล็อกเชน ซึ่งยังคงเป็น ‘ศูนย์กลางแห่งการสร้างรายได้’ ของระบบดีไฟอย่างแท้จริง

ข้อมูลล่าสุดจากผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ On-Chain Foundation อย่าง ลีออน ไวด์มัน เปิดเผยว่า อีเธอเรียมเมนเน็ตยังคงครอง *สัดส่วนรายได้จากการให้กู้ยืมในดีไฟถึง 80–90%* แม้จะมีการเติบโตของระบบเลเยอร์ 2 อย่าง อาร์บิทรัม, เบส และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ก็ตาม นั่นหมายความว่าท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น อีเธอเรียมยังคงเป็นต้นน้ำของสภาพคล่องและความเชื่อมั่นในระบบการเงินกระจายศูนย์

รายได้ในภาคการให้กู้ยืมของดีไฟนั้นมาจาก *ค่าธรรมเนียม, อัตราดอกเบี้ย และรางวัลจากการฝากเหรียญ* ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเกิดขึ้นบนอีเธอเรียมเมนเน็ต แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในแง่ปริมาณธุรกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึง *การสร้างรายได้ที่แท้จริง* ในระบบด้วย

หนึ่งในโปรโตคอลสำคัญที่ขับเคลื่อนรายได้ให้กับอีเธอเรียมคือ อาเว(Aave) ซึ่งกลายเป็น ‘เครื่องยนต์หลัก’ ของระบบดีไฟ โปรโตคอลนี้สามารถดึงดูดสภาพคล่องได้มากกว่าครึ่งของตลาดการให้กู้ทั้งหมด และมีสัดส่วนของการให้กู้แบบแอคทีฟถึง 60% โดยในปี 2025 อาเวคาดว่าจะสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมกว่า *885 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ* หรือราว *13,000 ล้านบาท*

ไวด์มันให้ความเห็นว่า *"ตลาดสินเชื่อของดีไฟมีแนวโน้มที่จะรวมตัวอยู่รอบ ๆ ศูนย์รวมของสภาพคล่องและความไว้วางใจ"* และอีเธอเรียมเมนเน็ตเองก็ไม่ได้ถูกบั่นทอนลงจากการเติบโตของเลเยอร์ 2 แต่กลับแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยหากเลเยอร์ 2 มีหน้าที่ช่วยในเรื่องประสบการณ์ใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกรรม อีเธอเรียมเมนเน็ตก็ยังคงทำหน้าที่เป็น *จุดสิ้นสุดของการชำระบัญชีและแหล่งที่มาของรายได้* อย่างมั่นคง

ในแง่ของการใช้งานเครือข่ายก็มีสัญญาณเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์คริปโต โจเซฟ ยัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันมี *กระเป๋าเงินกว่า 2.4 ล้านใบ* โต้ตอบกับเครือข่ายอีเธอเรียมในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งเกือบจะทำลายสถิติสูงสุดเดิม เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่านักลงทุนรายย่อย, สถาบัน, และผู้ใช้งานดีไฟ กำลังแห่กลับมาใช้งานเครือข่ายนี้

ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง *โทเคนไนซ์สินทรัพย์, สเตเบิลคอยน์ และโครงสร้างพื้นฐานด้านความเป็นส่วนตัว* ก็ล้วนพึ่งพาอีเธอเรียมเป็นฐานในการพัฒนา ส่งผลให้เครือข่ายยังมี *ศักยภาพในการเติบโตระยะยาวที่แข็งแกร่ง*

แม้ผู้ใช้งานและธุรกรรมจะกระจายไปตามเลเยอร์ 2 ในช่วงหลัง ๆ แต่รายได้จากค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่นั้นก็ยังไหลกลับมาสู่อีเธอเรียมเป็นหลัก ซึ่งยืนยันได้ว่าเครือข่ายนี้ยังคงมีบทบาทเป็น *จุดศูนย์กลางทางความเชื่อถือของระบบดีไฟ*

ความคิดเห็น: อีเธอเรียมกำลังพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่องในฐานะ 'โครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน' ของโลกคริปโต ถึงแม้ว่าราคาจะไม่หวือหวา แต่ระดับการใช้งาน, ความน่าเชื่อถือ และสัดส่วนรายได้ทั่วทั้งระบบกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ – เป็นสัญญาณที่นักลงทุนไม่อาจมองข้ามได้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1