บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวอย่างซบเซาต่อเนื่องตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์ชั้นนำเตือนว่า อาจมีโอกาสเกิด ‘การฟื้นตัวระยะสั้น’ ในเร็ว ๆ นี้ แต่ในระยะยาว ปี 2026 อาจเป็นช่วงเวลาแห่งขาลงที่รุนแรงมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ในปัจจุบันอาจไม่ใช่การร่วงลงฉับพลัน ทว่าคือ ‘ตลาดสะสมพลัง’ ที่ส่งผลกดดันทางจิตวิทยากับนักลงทุน
นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ‘ดร.โปรฟิต(Doctor Profit)’ ระบุว่า บิตคอยน์ยังไม่ได้สร้าง ‘จุดต่ำสุด’ อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีแนวโน้มต้องใช้เวลาในการปรับฐานอีกอย่างน้อย 12-14 เดือน เขาประเมินว่าบิตคอยน์อาจสร้างฐานราคาหลักไว้ที่ประมาณ 60,000 ดอลลาร์ หรือราว 8.88 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่าในระยะสั้น บิตคอยน์มี ‘โอกาสฟื้นตัว’ สู่ระดับ 97,000 - 107,000 ดอลลาร์ หรือราว 14.36 - 15.84 ล้านบาท ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ดร.โปรฟิตอธิบายเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตลาดยังไม่พร้อมสำหรับการกลับตัวแบบรุนแรง ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ‘การเคลื่อนไหวในกรอบแคบหรือ Sideways’ เพื่อสะสมสภาพคล่อง ท่ามกลางแรงกดดันทางจิตวิทยาที่อาจทำให้นักลงทุน ‘หมดแรงและพลาดจังหวะเข้าซื้อที่ดี’
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเขาคาดการณ์ว่า ปี 2026 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘วิกฤตการเงินขนานใหญ่’ ซึ่งเชื่อมโยงกับ ‘การขาดแคลนสภาพคล่องทั่วโลก’ โดยดร.โปรฟิตกล่าวถึงระบบ ‘Standing Repo Facility’ ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ให้ธนาคารสามารถกู้ยืมได้รายวันสูงสุดถึง 2.4 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 355 ล้านล้านบาท ด้วยหลักประกันคุณภาพสูง แม้จะดูเป็นการเติมสภาพคล่องแก่ระบบ แต่ในความจริงอาจสะท้อนถึง ‘ความเปราะบางเชิงโครงสร้าง’ ลึก ๆ ภายในระบบการเงิน
ดร.โปรฟิตยังกล่าวอีกว่า การที่หน่วยงานกำกับนโยบายของสหรัฐฯ ต้องพึ่งพาฉุกเฉินในลักษณะนี้ แสดงถึงแรงกดดันจาก ‘เงินเฟ้อ’ และ ‘ภาระหนี้’ ที่กำลังควบคุมไม่ได้ และอาจนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่แบบในปี 2020 ซึ่งอาจดันราคาของสินทรัพย์จริง เช่น ‘บิตคอยน์’, ‘ที่อยู่อาศัย’, และ ‘ทองคำ’ ให้พุ่งทะยานอีกครั้ง
ขณะที่นักวิเคราะห์อีกคน ‘มิสเตอร์วอลล์สตรีท(Mr. Wall Street)’ ก็เห็นสอดคล้องในด้านความผันผวน โดยเขาเปิดเผยว่า เขาเพิ่งเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาบิตคอยน์แตะใกล้ระดับ 84,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 12.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นจุดรับที่สำคัญตามเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่านี่อาจเป็นเพียง ‘กับดักขาขึ้น (Bull Trap)’ และหากราคาขึ้นแตะ 98,000 - 104,000 ดอลลาร์แล้วหมดแรง อาจกลับทิศลงซ้ำ โดยมองแนวรับถัดไปในช่วงต้นปี 2026 อยู่ระหว่าง 64,000 - 70,000 ดอลลาร์ หรือราว 9.47 - 10.36 ล้านบาท
"ความคิดเห็น: ทั้งดร.โปรฟิตและมิสเตอร์วอลล์สตรีตต่างชี้ว่าการฟื้นตัวแบบชั่วคราวไม่น่าจะเปลี่ยนแนวโน้มหลักของตลาด และการฟื้นตัวเหล่านี้อาจเป็นเพียงการดูดสภาพคล่องก่อนที่ราคาจะเคลื่อนสู่จุดต่ำสุดใหม่"
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกฝ่ายจะมองโลกในแง่ร้ายทั้งหมด ‘แมตต์ ฮูแกน(Matt Hougan)’ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนจากบริษัทคริปโตขนาดใหญ่ ‘บิตวิซ(Bitwise)’ ตั้งข้อสังเกตในสัมภาษณ์ล่าสุดว่า ในปี 2026 บิตคอยน์อาจทำ ‘สถิติสูงสุดใหม่’ ได้อีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่า หลังผ่านเหตุการณ์ ‘ลดรางวัลบล็อก’ หรือ Halving แล้ว อุปสงค์และอุปทานจะเข้าสู่ภาวะไม่สมดุล ซึ่งเป็นปัจจัยเร่งราคาที่สำคัญ
ตลาดในช่วงถัดไปดูเหมือนจะดำเนินเข้าสู่ ‘ช่วงพักฐานหรือไซด์เวย์’ ที่กินเวลานาน นักลงทุนควรเตรียมใจรับมือทั้งความผันผวนในระยะสั้นและความเสี่ยงในระยะกลางถึงยาว กลยุทธ์ ‘กระจายการลงทุน’ และความยืดหยุ่นในการตัดสินใจจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้นในเวลานี้
ความคิดเห็น 0