Erebor ธนาคารดิจิทัลจากการร่วมก่อตั้งของ พาล์เมอร์ ลัคกีย์ และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชื่อดัง ปีเตอร์ ธีล ขยับมูลค่าหลังระดมทุนรอบล่าสุดขึ้นแตะ 4.35 พันล้านดอลลาร์ โดยระดมทุนได้ 350 ล้านดอลลาร์ในรอบที่นำโดย Lux Capital ตามรายงานของ Axios เมื่อวันที่ 24 ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบันที่มองเห็นอนาคตของรูปแบบธนาคารใหม่ที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีอย่างคริปโต ปัญญาประดิษฐ์ และการรองรับสเตเบิลคอยน์
นอกจากนี้ Erebor ยังได้รับการอนุมัติเบื้องต้นแบบมีเงื่อนไขจากสำนักงานผู้ควบคุมสกุลเงินของสหรัฐ (OCC) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการเปลี่ยนสถานะเป็นธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกัน คำขอประกันเงินฝากของ Erebor ก็ได้รับการอนุมัติจาก FDIC โดยการอนุมัตินี้มีอายุ 12 เดือน หากยังไม่จัดตั้งธนาคารอย่างเป็นทางการหรือไม่มีการขยายเวลา มาตรการอนุมัติดังกล่าวจะหมดอายุ ทั้งนี้ นักลงทุนในรอบระดมทุนใหม่นี้มีทั้งนักลงทุนหน้าใหม่และนักลงทุนเดิม เช่น Founders Fund, Haun Ventures และ 8VC
จุดยืนของ Erebor ในตลาดธนาคารดิจิทัลนั้นตั้งอยู่บนแนวคิดที่ผสมผสานบริการทางธนาคารแบบดั้งเดิมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งถือเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจมากขึ้นตั้งแต่หลังเหตุการณ์ล่มสลายของธนาคารซิลิคอนวัลเลย์(SVB) ในเดือนมีนาคม 2023 ซึ่ง SVB เคยเป็นคู่ค้าใหญ่ของสตาร์ทอัพสายเทคโนโลยี แต่ประสบปัญหาหลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ระยะยาวลดลง และเกิดการแห่ถอนเงินนำไปสู่การล่มสลายครั้งใหญ่ของธนาคารในรอบหลายทศวรรษ
Erebor ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เล่นที่ผลักดันวงการธนาคารยุคใหม่ เช่นเดียวกับบริษัทอื่น ๆ อย่าง คอยน์เบส(COIN), เซอร์เคิล และ ริปเปิล ที่กำลังหาทางรับใบอนุญาตธนาคารระดับประเทศจาก OCC มักเน้นการให้บริการด้านการฝากรักษาและการชำระปิดบัญชีของสินทรัพย์ดิจิทัล ในกรณีของคอยน์เบส ยังมีเป้าหมายในการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานการเงินแบบดั้งเดิมกับการเงินบนเชนผ่านการดำเนินงานภายใต้กรอบธนาคารกลาง
ในช่วงแคมเปญบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ กลุ่มอุตสาหกรรมคริปโตมีความหวังเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีความเคลื่อนไหวด้านกฎหมายและนโยบาย เช่นการผ่านร่างกฎหมายสเตเบิลคอยน์ และการเสนอร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโตที่เป็นที่คาดหวังมานาน แม้จะมีความล่าช้า แต่การดำเนินการเหล่านี้ก็ช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ล่าสุด เดวิด แซกส์ ที่ปรึกษาด้านคริปโตและ AI ของทรัมป์ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า หน่วยงานอย่างสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และคณะกรรมการซื้อขายล่วงหน้า( CFTC) มีแนวโน้มจะพร้อมออกแนวทางกำกับดูแลคริปโตอย่างชัดเจน คำแถลงของเขายังเกิดขึ้นหลังจาก CFTC มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำ โดยมีไมค์ เซลิก เข้ามามีบทบาทสำคัญ ซึ่งเน้นให้เห็นถึงทิศทางใหม่ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0