ตลาดอนุพันธ์คริปโตเริ่มคึกคักหลังจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนชื่อดังอย่าง Glassnode รายงานว่า ‘สัญญาฟิวเจอร์สแบบไม่มีกำหนด’ หรือที่เรียกว่า *perpetual open interest* มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บ่งชี้ว่าบรรดานักลงทุนกำลังจับตาการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของตลาดคริปโตในช่วงปลายปี
เมื่อวันที่ 24 Glassnode เปิดเผยว่า *open interest* ของบิตคอยน์(BTC) ได้เพิ่มจาก 304,000 BTC ไปแตะที่ 310,000 BTC พร้อมกันนี้ ราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นชั่วครู่แตะ 90,000 ดอลลาร์ ก่อนจะถอยกลับลงมาอยู่ที่ 88,200 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา ปัจจัยสะท้อนความร้อนแรงของตลาดยังรวมถึง ‘อัตราการระดมทุน’ หรือ funding rate ที่พุ่งจาก 0.04% เป็น 0.09% ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเทรดเดอร์กำลังคาดการณ์ถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะเวลาอันใกล้
สัญญา *perpetual* แตกต่างจากฟิวเจอร์สทั่วไปตรงที่ไม่มีวันหมดอายุ และจะอ้างอิงราคาปัจจุบันของบิตคอยน์ผ่านกลไก funding rate ซึ่งเป็นระบบจ่ายดอกเบี้ยระหว่างผู้ถือสถานะ ‘ยาว’ (long) และ ‘สั้น’ (short) หาก funding rate เพิ่มสูง นั่นหมายถึงราคาสัญญา *perpetual* แข็งกว่าราคาตลาดจริง และบ่งชี้ว่าตลาดกำลัง ‘มั่นใจ’ หรือ ‘ร้อนแรง’ เพราะมีนักลงทุนจำนวนมากเต็มใจจ่ายเบี้ยความเสี่ยงเพื่อเข้าสถานะ long อย่างไรก็ตาม หาก funding rate สูงเกินไป ก็อาจเกิดความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจมากเกิน และนำไปสู่การปรับฐาน
อีกประเด็นที่เป็นตัวแปรสำคัญของตลาดปลายปีนี้คือ ‘สัญญาออปชัน’ ของบิตคอยน์มูลค่ารวมกว่า 23,000 ล้านดอลลาร์ ที่จะหมดอายุในวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในการหมดอายุของสัญญาออปชันที่ใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ ดาต้าจาก Deribit ระบุว่า ‘คอลออปชัน’ หรือคำสั่ง long กระจุกตัวที่ราคาเป้าหมาย 100,000 และ 120,000 ดอลลาร์ ขณะที่ ‘พุตออปชัน’ หรือคำสั่ง short เข้าสู่ช่วงราคา 85,000 ดอลลาร์ สัดส่วนพุต/คอลปัจจุบันอยู่ที่ 0.37 บ่งชี้ความเข้มข้นของสัญญาฝั่ง long สูงกว่ามาก
ข้อมูลจาก Coinglass ระบุว่า จุดราคาที่นักลงทุนจะเจ็บตัวมากที่สุด หรือ ‘จุดเจ็บสูงสุด’ (max pain) อยู่ที่ 96,000 ดอลลาร์ หากราคาตลาดจริงไม่สามารถขยับขึ้นเหนือระดับนั้นได้ สัญญาออปชันจำนวนมากจะหมดค่า และขาดทุนทันที ช่องว่างระหว่างราคา spot ปัจจุบันกับจุด max pain ราว 7,500 ดอลลาร์ สะท้อนว่านักลงทุน ‘สายกระทิง’ ตั้งความหวังในทิศทางราคาที่สูงเกินจริง ซึ่งอาจจบลงด้วยการสูญเสียจากการวางเดิมพันที่ผิดพลาด
*ความคิดเห็น:* แม้ภาพรวมตลาดจะดึงดูดความสนใจด้วยตัวเลขและความคึกคักด้านอนุพันธ์ แต่สิ่งที่นักลงทุนควรใส่ใจมากที่สุด คือ ‘ความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจ’ และ ‘การคาดการณ์ราคาที่เกินจริง’ ซึ่งอาจนำไปสู่ความผิดพลาดมหาศาล โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดมีความเปราะบางจากเหตุการณ์ใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ความคิดเห็น 0