ตลาดคริปโตฯ เข้าสู่ ‘โหมดพักร้อน’ ต่อเนื่อง สัญญาณความสนใจลดลงทั่วกระดาน
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในช่วงปลายปีดูเงียบเหงากว่าที่เคย โดยข้อมูลจากสำนักวิเคราะห์ซานติเมนต์(Santiment) เมื่อวันที่ 30 ระบุว่า *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* กำลังเผชิญกับปริมาณการซื้อขายที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงสองสัปดาห์หลังตัวเลขนั้นร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบปี 2025
ในการอัปเดตผ่านโซเชียลมีเดีย ซานติเมนต์ระบุว่า 'สภาพคล่อง' ในทั้งตลาดสปอตและฟิวเจอร์สลดลงอย่างเห็นได้ชัด ท่ามกลางช่วงวันหยุดยาวและราคาที่ขยับไม่มาก ส่งผลให้เทรดเดอร์จำนวนไม่น้อยเลือกพักจอและหยุดเทรดชั่วคราว
โดยเฉพาะในฝั่งของ 'อัลท์คอยน์' ที่มีความผันผวนสูง เช่น *โซลานา(SOL)*, *เอด้า(ADA)* และ *โดจคอยน์(DOGE)* พบว่าปริมาณการซื้อขายรายสัปดาห์ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2024 สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการระยะสั้นที่อ่อนแอลง ไม่ใช่ผลกระทบจากความตื่นตระหนกขายในตลาด
ที่น่าสนใจคือการชะลอลงของ ‘ความสนใจบนโซเชียลมีเดีย’ ซึ่งมักเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มตลาดในภาวะปกติ ช่องวิเคราะห์โอโร คริปโต(Oro Crypto) เปิดเผยว่าตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2025 การกล่าวถึง *บิตคอยน์* บนโซเชียลมีเดียได้ลดลงต่อเนื่อง แม้ราคาจะมีแรงดีดกลับเป็นระยะ แต่นักลงทุนก็ตอบสนองอย่างเย็นชา ต่างจากการเคลื่อนไหวในปีที่ตลาดร้อนแรง
ทั้งนี้ *สัดส่วนการกล่าวถึงในโซเชียล หรือ 'Social Dominance'* ของบิตคอยน์ได้ลดลงมาอยู่ในระดับเลขหลักเดียว สะท้อนว่า ‘ความสนใจของนักลงทุน’ ไม่ได้กระจุกอยู่ที่เหรียญใดเหรียญหนึ่งเหมือนในอดีต แต่กระจายหรือแสดงอาการ ‘เบื่อและล้า’ มากกว่า *ความคิดเห็น* จากโอโร คริปโตมองว่านี่ไม่ใช่สัญญาณของความกลัว แต่สะท้อนถึง ‘ความเหนื่อยหน่าย’ ของตลาดที่ไม่มีโทนเรื่องราวใหม่ๆ ดึงดูดเงินจากนักลงทุนรายย่อยได้อีก
ในเชิงเทคนิคัล ราคาปัจจุบันของบิตคอยน์อยู่ที่ราว 88,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.27 ล้านบาท) หนึ่งในนักวิเคราะห์มองว่าระดับนี้เป็น ‘ความเคลื่อนไหวในแนวสามเหลี่ยม’ หรือ Triangle Pattern และหากสามารถทะลุแนวต้านที่ 90,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.31 ล้านบาท) ขึ้นไป ก็อาจเปิดทางไต่ขึ้นสู่ 107,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.55 ล้านบาท) ได้ แต่ในทางกลับกัน หากหลุดแนวรับ อาจถอยลงไปทดสอบระดับ 65,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 942,000 บาท) เช่นกัน
ถึงจะดูอึมครึม แต่ยังมีแง่มุมบวกโดยเฉพาะจากตลาดทองคำและโลหะมีค่าอื่นๆ *ทองคำ* เพิ่งทำสถิติใหม่ที่ระดับ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ราว 652,000 บาท) ขณะที่ราคาของ *เงิน* ก็พุ่งขึ้นเช่นเดียวกัน นักวิเคราะห์บางรายเทียบสถานการณ์นี้กับปี 2020 ที่การอัดฉีดสภาพคล่องจากธนาคารกลางทำให้ราคาทองพุ่งสูง และเม็ดเงินไหลต่อสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตฯ จนนำไปสู่ตลาดกระทิง
บทสรุปคือ ปริมาณการซื้อขายที่ตกต่ำ ขาดแรงกระตุ้นจากกระแสสื่อ และความไม่ชัดเจนของเทคนิคัล กลายเป็น ‘สามแรงกดดัน’ ในช่วงปลายปี 2025 แต่ *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์หลายฝ่ายเชื่อว่าความเงียบนี้ไม่น่าจะยืนยาว ณ จุดเปลี่ยนสู่ปี 2026 ตลาดอาจกลับมาคึกคักอีกครั้ง – ไม่ว่าจะเป็นในทิศทางขาขึ้น หรือถอยลงเข้าสู่ช่วงปรับฐานลึกกว่าที่คาดก็ตาม
ความคิดเห็น 0