เครือข่ายบล็อกเชน ‘ซุย(SUI)’ เตรียมเปิดใช้งานฟีเจอร์ ‘ธุรกรรมส่วนตัว’ ในปี 2026 โดยจะตั้งค่าให้เป็นค่าเริ่มต้นอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าทุกรายการที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายจะถูกปกปิดข้อมูลโดยไม่ต้องตั้งค่าเอง ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปิดเผยข้อมูลได้ตามต้องการ นักพัฒนาโครงการยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงฟีเจอร์เสริม แต่เป็น ‘โครงสร้างพื้นฐาน’ สำคัญระดับโปรโตคอลในระบบนิเวศของซุย
อเดนนี อาบิโอดุน หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งมายสเตนแล็บส์(Mysten Labs) บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังซุย เผยผ่านโพสต์ในแพลตฟอร์ม X เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า การเพิ่มฟีเจอร์ธุรกรรมส่วนตัวจะมีผลใช้งานในปี 2026 โดยทางทีมได้ออกแบบมาให้เป็นค่าเริ่มต้น และจะมีการประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ บัญชี X อย่างเป็นทางการของซุิยระบุเพิ่มเติมว่า “ปี 2026 จะต้องเป็นปีที่น่าตื่นเต้นอย่างแน่นอน”
ในวิดีโอสั้นที่แนบมากับโพสต์ อาบิโอดุนให้เหตุผลว่า ‘ความเป็นส่วนตัว’ คือเงื่อนไขสำคัญของระบบการชำระเงินแบบไร้ศูนย์กลาง พร้อมระบุว่า “ธุรกรรมบล็อกเชนเปิดเผยต่อสาธารณะโดยอัตโนมัติ จึงยากที่จะกลายเป็นกลไกชำระเงินในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน” เขาชี้ว่า การออกแบบใหม่นี้ถูกเตรียมการตั้งแต่ก่อนเปิดตัวเมนเน็ตของซุย แต่เคยหยุดพัฒนาไปชั่วคราวเนื่องจากความกังวลจากฝั่งองค์กร
อาบิโอดุนย้ำว่า ฟีเจอร์ธุรกรรมส่วนตัวนี้ ไม่ใช่เพียงการเพิ่มฟังก์ชันไว้บนแอปพลิเคชัน แต่เป็น ‘พริมิทีฟระดับแรก (first-class primitive)’ ที่ฝังอยู่ในโครงสร้างของโปรโตคอลซุยโดยตรง นั่นหมายความว่าระบบจะไม่ถามผู้ใช้ว่าต้องการเปิดหรือปิดธุรกรรมส่วนตัว แต่จะเริ่มต้นด้วยความเป็นส่วนตัวโดยอัตโนมัติ หากผู้ใช้อยากเปิดเผยข้อมูล ก็สามารถทำได้เมื่อมีการยินยอมจากทั้งผู้ส่งและผู้รับ
“ผู้ใช้งานควรเป็นเจ้าของข้อมูลธุรกรรมของตนเอง และต้องมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะเปิดเผยให้ใคร” เขากล่าว พร้อมอธิบายว่า วิธีนี้จะใช้โมเดล ‘การเปิดเผยโดยผู้ใช้กำหนด’ ซึ่งสวนทางกับโครงสร้างของบล็อกเชนส่วนใหญ่ที่ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกแบบโปร่งใส
ซุยมุ่งเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานความเป็นส่วนตัวแบบ ‘ใช้ได้ทั่วไป’ แทนที่จะเป็นเหรียญลับ(like privacy coins) ที่มีจุดประสงค์เฉพาะ อาบิโอดุนกล่าวว่า ส่วนขององค์กรนั้นมีความต้องการที่แตกต่างจากผู้บริโภคทั่วไป อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันนี้จะถูกปรับให้องค์กรสามารถใช้งานได้จริงโดยไม่เสียความสะดวก คาดว่าจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชันทุกประเภทในระบบนิเวศของซุย รวมถึงกระเป๋าเงินอย่าง ‘Slush’ พร้อมเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา เช่น API และ DevKit ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
ทั้งนี้ รายละเอียดของเทคโนโลยี เช่น รูปแบบการเข้ารหัสข้อมูล ยังไม่ได้รับการเปิดเผยในขณะนี้
การประกาศครั้งนี้มีขึ้นในช่วงที่ระบบนิเวศของซุยขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าการล็อกสินทรัพย์(TVL) อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 หมื่นล้านบาท) และจำนวนแอปพลิเคชันบนซุยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เหรียญ SUI ได้รับการจดทะเบียนในแพลตฟอร์มซื้อขายอย่างโรบินฮู้ดและคอยน์เบส
ไมเคิล ฟาน เดอ โพเป(Nicholas van de Poppe) นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังจากเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า “แม้พื้นฐานของซุยจะเติบโตอย่างชัดเจน แต่ราคายังไม่สะท้อนการเติบโตนั้น สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของการฟื้นตัวเมื่อแนวโน้มตลาดเป็นบวก” เขามองว่าโครงการอย่างซุิยมีความแข็งแกร่งระดับหนึ่ง และอาจเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับเงินทุนไหลกลับหากตลาดกลับมาเป็นขาขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง นักวิเคราะห์สายเทคนิคอย่าง ‘เนบราสกากันเนอร์’ แสดงความเห็นที่ระมัดระวังมากกว่า โดยกล่าวว่าราคาของ SUI อยู่ในภาวะติดแนวต้านอย่างรุนแรง และอาจกลายเป็นอีกหนึ่ง ‘เหรียญอัลต์ที่เงียบหาย’ ได้หากไม่สามารถฝ่าจุดเสี่ยงนี้ไปได้
ณ เวลาที่เขียนบทความ ราคาของซุย(SUI) อยู่ที่ 1.44 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,084 บาท) และซื้อขายต่ำกว่าระดับฟีโบนัชชี 0.236 ซึ่งเป็นระดับทางเทคนิคสำคัญ
*ความคิดเห็น: หากระบบธุรกรรมส่วนตัวดังกล่าวสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นตามที่กล่าวอ้าง อาจเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าการชำระเงินบนบล็อกเชนอย่างแท้จริง ทั้งสำหรับผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ*
ความคิดเห็น 0