Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

CFO สแตรทิจีชี้ บิตคอยน์(BTC) ใหญ่เกินกว่าถูกควบคุม ชี้เป้าแตะ 1 ล้านดอลลาร์ในอนาคต

เมื่อราคาบิตคอยน์(BTC)ปรับตัวลงช่วงปลายปีที่ผ่านมา ข้อสงสัยเรื่อง ‘การปั่นราคาตลาด’ ก็กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งในโลกออนไลน์ อย่างไรก็ตาม แอนดรูว์ คัง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของบริษัท สแตรทิจี(Strategy) ปฏิเสธว่าการปรับฐานครั้งนี้เป็นผลจากการควบคุมตลาด พร้อมชี้ว่ามูลค่าตลาดของบิตคอยน์ในปัจจุบัน ‘ใหญ่เกินกว่าที่ใครจะควบคุมได้ด้วยตนเอง’

คังเผยแพร่ความคิดเห็นผ่านพอดแคสต์ ‘คอยน์ สตอรี่ส์(Coin Stories)’ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม โดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ช่วงนี้สะท้อนภาพรวมของ *เศรษฐกิจมหภาค* มากกว่าจะโยงกับการจัดการราคาแบบใดแบบหนึ่ง "บิตคอยน์ไม่ได้อ่อนค่าจากปัญหาของสินทรัพย์เอง แต่สะท้อนถึงแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ยที่ไม่แน่นอน และความผันผวนของหุ้นเทคโนโลยี" เขากล่าว

ข้อสงสัยบางส่วนมาจากเหตุการณ์ ‘การบังคับชำระบัญชี’ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ประกอบกับข่าวลือเรื่องการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ของดัชนี MSCI ที่นำไปสู่ทฤษฎีว่า “มีฝ่ายใดบางฝ่ายกำลังควบคุมตลาด” คังชี้แจงว่า “แม้จะมีคนพยายามควบคุมราคาในบางจังหวะ แต่ถ้าพิจารณาความใหญ่ของตลาดและสภาพคล่องที่มีอยู่ในตอนนี้ แนวคิดเรื่องการควบคุมเชิงระบบแทบจะเป็นไปไม่ได้”

คังยังพูดต่อว่า “ทฤษฎีสมคบคิดนั้นฟังดูน่าติดตามและเรียกความสนใจได้ แต่ขนาดของบิตคอยน์ในวันนี้มันใหญ่มากเกินกว่าจะถูกบงการได้โดยบริษัทใดบริษัทหนึ่ง” พร้อมย้ำว่า *ปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาค* คือประเด็นจริงที่ผู้ลงทุนควรจับตา

บิตคอยน์ที่บริษัท สแตรทิจี ถือครองอยู่ในปริมาณมาก มักถูกโยงเป็นประเด็นเมื่อมีความเคลื่อนไหวเชิงราคา โดยเฉพาะเมื่อบริษัทออกหุ้นเพิ่มทุนหรือซื้อบิตคอยน์ในปริมาณมากแต่ราคายังไม่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม คังยืนยันว่า “บิตคอยน์เติบโตจนเกินกว่าที่บริษัทใดจะใช้เป็นเครื่องมือกำหนดทิศทางการลงทุน”

เขากล่าวเสริมว่า “บิตคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์ในงบดุลของบริษัทใดบริษัทหนึ่งอีกต่อไป แต่เป็น ‘สินทรัพย์สากล’ ที่ผู้ลงทุนทั่วโลกใช้เป็นทางเลือกในการเก็บมูลค่า” และเสริมว่า “แม้แต่เราเองในฐานะบริษัทที่ถือบิตคอยน์มาก ยังไม่สามารถควบคุมราคามันได้”

ในส่วนของความผันผวนราคานั้น คังมองว่าเป็น *ลักษณะเฉพาะของตลาดในช่วงเริ่มเติบโต* เขาเล่าว่าตอนที่ร่วมทีมสแตรทิจีในปี 2022 และเจอกับตลาดหมีเป็นครั้งแรก เขาได้เรียนรู้ว่าความผันผวนไม่ใช่จุดอ่อนของบิตคอยน์ แต่สะท้อนถึงสถานะที่บิตคอยน์ยังคงถูกมองเป็น ‘สินทรัพย์ความเสี่ยงสูง’ ซึ่งอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก เช่น ทิศทางดอกเบี้ยของ FED และการไหลเวียนของเงินทุนในสินทรัพย์โลก

คังยังเน้นว่าคุณค่าหลักของบิตคอยน์ เช่น ‘ความมีจำกัดของจำนวน’ และ ‘บทบาทเป็นที่เก็บรักษามูลค่า’ ยังคงเด่นชัดและมีประโยชน์ในอนาคต “ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงอยู่ และจะยังคงสำคัญต่อไป” เขากล่าว

ท้ายที่สุด คังแสดงความมั่นใจว่าบิตคอยน์จะมี ‘การเติบโตระยะยาว’ แม้จะมีความผันผวนระหว่างทาง โดยระบุว่าราคาสามารถแตะ *125,000 ดอลลาร์, 200,000 ดอลลาร์ หรือแม้แต่ 1 ล้านดอลลาร์* ได้ในอนาคต ตราบที่ยังมีข้อจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ “แต่การไปถึงจุดนั้น จะไม่ใช่เส้นทางที่ราบเรียบแน่นอน” เขากล่าวทิ้งท้าย

เมื่อวันที่ 1 ราคาบิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ *88,730 ดอลลาร์* หรือราว *1.28 ล้านบาท* ตามอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น.

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1