ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่า รัฐบาลจะยังคงถือครองบิตคอยน์(BTC) ที่มีอยู่ แต่ไม่มีแผนซื้อล็อตใหม่ ซึ่งส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจัดตั้ง ‘ศูนย์สำรองยุทธศาสตร์บิตคอยน์’ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ขายบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่ อย่างไรก็ตาม การที่ไม่มีแผนซื้อเพิ่มทำให้ความคาดหวังของตลาดลดลง และกดดันให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลง
เดวิด แซกซ์ ผู้ดูแลนโยบายคริปโตของทรัมป์ เปิดเผยผ่าน X (เดิมคือ Twitter) ว่า "รัฐบาลจะถือครองเฉพาะบิตคอยน์ที่ได้จากกระบวนการทางกฎหมาย เช่น การยึดทรัพย์สิน แต่จะไม่จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อซื้อบิตคอยน์ใหม่" อย่างไรก็ตาม เขายังเสริมว่ารัฐบาลกำลังมองหาวิธีการเข้าถือครองสินทรัพย์เพิ่มเติมในลักษณะที่ไม่กระทบงบประมาณ
หลังจากข่าวนี้แพร่สะพัด ราคา ‘บิตคอยน์’ ตามข้อมูลของ CoinMarketCap ร่วงลง 6% จาก 90,400 ดอลลาร์ สู่ระดับ 84,979 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมาอยู่ที่ 86,460 ดอลลาร์ในปัจจุบัน
การปรับตัวของบิตคอยน์ยังส่งผลกระทบต่อตลาดอัลต์คอยน์ โดยอีเธอเรียม(ETH) ลดลง 4%, ริปเปิล(XRP) ร่วง 7%, โซลานา(SOL) ปรับตัวลง 5.14% และคาร์ดาโน(ADA) ร่วงหนักถึง 9.19%
ภายในอุตสาหกรรมคริปโต นักลงทุนคาดหวังว่ารัฐบาลจะสะสมบิตคอยน์เพิ่มเติม แต่มาตรการล่าสุดกลับสร้างความผิดหวังจนเกิดแรงขายตามมา ทั้งนี้ ตลาดยังจับตาดูว่ารัฐบาลทรัมป์จะมีนโยบายเสริมใดๆ ออกมาในอนาคตเพื่อส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของคริปโตหรือไม่
ความคิดเห็น 0