วุฒิสภารัฐเทกซัสได้ผ่าน ‘ร่างกฎหมายสำรองยุทธศาสตร์บิตคอยน์ (SB-21)’ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการจัดสรรสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐบาล ขณะเดียวกัน ผู้ร่วมก่อตั้งโซลานา(SOL) ได้ออกมาเตือนว่าการสำรองคริปโตเคอร์เรนซีโดยหน่วยงานรัฐอาจขัดกับหลักการกระจายศูนย์ นอกจากนี้ มีกระแสความสนใจจากตลาดหลังจากกระเป๋าเงินของมาวต์กอกซ์(Mt. Gox) มีการโอนบิตคอยน์(BTC) จำนวน 12,000 BTC
เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) วุฒิสภารัฐเทกซัสได้มีมติอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียง 25 ต่อ 5 โดยร่างกฎหมายนี้เสนอโดย ชาร์ลส์ ชูเบิร์ตเนอร์ ซึ่งมีเป้าหมายในการใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองของรัฐเพื่อเพิ่มเสถียรภาพทางการเงิน เขาระบุว่า "ยุคที่เราต้องกักเก็บเงินสดในตู้เซฟได้จบลงแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องใช้สินทรัพย์ดิจิทัลให้เกิดประโยชน์" ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้สนับสนุนบิตคอยน์ชี้ว่า บิตคอยน์สามารถเป็น ‘สินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ’ เช่นเดียวกับทองคำ เนื่องจากมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐกำลังลดลง หากร่างกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ เทกซัสจะเป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกาที่ใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นทุนสำรองอย่างเป็นทางการ
ด้านอานาโตลี ยาโคเวนโก ผู้ร่วมก่อตั้งโซลานา ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ โดยกล่าวว่า "แนวทางที่ดีที่สุดคือรัฐบาลไม่ควรมีการสำรองคริปโตเคอร์เรนซีเลย เพราะอาจเป็นภัยต่อหลักการกระจายศูนย์" นอกจากนี้เขายังเสริมว่า การถือครองคริปโตในระดับรัฐอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการให้รัฐบาลกลางเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยประกาศแผนพัฒนาเงินสำรองในรูปแบบคริปโต โดยมี XRP, โซลานา, คาร์ดาโน(ADA), บิตคอยน์ และอีเธอเรียม(ETH) เป็นส่วนหนึ่งของแผนดังกล่าว
ในอีกด้านหนึ่ง มีกระแสความสนใจเกิดขึ้นเมื่อกระเป๋าเงินของมาวต์กอกซ์มีการเคลื่อนย้ายบิตคอยน์ประมาณ 12,000 BTC เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) โดยข้อมูลจาก Arkham Intelligence ระบุว่ามีการโอนสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 1.75 ล้านล้านวอน (ราว 1.64 ดอลลาร์สหรัฐ) ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเพียง 2,390 วอน (ประมาณ 1.64 ดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ ยังมีการโอน 166.5 BTC (ราว 242,000 ล้านวอน) ไปยังกระเป๋าเงินเย็นของมาวต์กอกซ์ ส่วนที่เหลือถูกโอนไปยังกระเป๋าที่ไม่ทราบแหล่งที่มา ปัจจุบันมาวต์กอกซ์ยังถือครองบิตคอยน์ประมาณ 36,080 BTC (ราว 5.26 ล้านล้านวอน) ทำให้ตลาดเริ่มจับตาดูความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม
แนวทางของเทกซัสในเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล การถกเถียงเกี่ยวกับสินทรัพย์สำรองของรัฐบาล และการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ของมาวต์กอกซ์ ต่างเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางของตลาดคริปโต โดยเฉพาะหากแผนพัฒนาเงินสำรองดิจิทัลของทรัมป์เดินหน้าต่อไป ประเด็นนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมในอนาคต
ความคิดเห็น 0