หากรัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาการสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงกลยุทธ์ มูลค่าตลาดของบิตคอยน์(BTC) อาจเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 460,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 671.6 ล้านล้านวอน ตามการวิเคราะห์ล่าสุด
คาทาลิน ทีชเฮาเซอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลสัญชาติสวิส 'ซิกนัม' (Sygnum) เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า “หากรัฐบาลกลางและรัฐบาลรัฐของสหรัฐฯ ซื้อบิตคอยน์ จะทำให้เกิดสภาพคล่องขนาดใหญ่เข้าสู่ตลาด ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้น” เขากล่าวเสริมว่า “เนื่องจากอุปทานของบิตคอยน์มีจำกัด การซื้อจำนวนมากอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคา”
ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันแผนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาลกลางเมื่อวันที่ 2 มีนาคม โดยระบุว่านอกจากบิตคอยน์แล้ว อาจรวมถึงอีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) ด้วย ส่งผลให้ไม่ใช่แค่รัฐบาลกลางเท่านั้นที่ให้ความสนใจ แต่บางรัฐของสหรัฐฯ ก็กำลังพิจารณากฎหมายลักษณะเดียวกัน
ทีชเฮาเซอร์วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า นโยบายของรัฐบาลทรัมป์สามารถกระตุ้นให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น “หากทั้งรัฐบาลกลางและรัฐเข้าซื้อบิตคอยน์โดยตรง อาจไม่เพียงดึงสถาบันการเงินให้เข้ามาเพิ่ม แต่ยังอาจกระตุ้นการลงทุนจากรัฐบาลประเทศอื่นอีกด้วย” รายงานยังชี้ให้เห็นว่า การไหลเข้าของทุนจากสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น กรณีของกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอต หากมีเม็ดเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ไหลเข้า อาจส่งผลให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้น 3-6% จากเอฟเฟกต์การขยายตัวของตลาด
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังเกี่ยวกับโอกาสในการดำเนินแผนนี้จริง ทีชเฮาเซอร์กล่าวว่า “ตลาดยังคงมองว่าความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะสำรองคริปโตเคอร์เรนซีในระดับประเทศค่อนข้างต่ำ เนื่องจากมีอุปสรรคทั้งทางกฎหมายและความไม่แน่นอนด้านนโยบาย” นอกจากนี้ บางรัฐได้ปฏิเสธแผนการสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลไปแล้ว และหากเป็นระดับรัฐบาลกลาง การดำเนินแผนอาจเผชิญกับอุปสรรคจากการอนุมัติของสภาคองเกรส
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนดังกล่าวในการประชุมสุดยอดคริปโตในวันที่ 7 มีนาคม ฮาเวิร์ด รูตนิค รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า “บิตคอยน์จะได้รับสถานะพิเศษในฐานะสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์ และอาจมีสกุลเงินดิจิทัลอื่นรวมอยู่ด้วย” อย่างไรก็ตาม ทีชเฮาเซอร์แสดงความกังวลว่า “แม้ว่าการที่รัฐบาลลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นสัญญาณบวก แต่การใช้คำว่า ‘สำรองเชิงกลยุทธ์’ อาจก่อให้เกิดความสับสนโดยไม่จำเป็น”
หากรัฐบาลสหรัฐฯ รับรองสกุลเงินดิจิทัลในฐานะสินทรัพย์การลงทุนภายใต้กรอบกฎหมายและดำเนินการซื้อสำรอง ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลกอาจมหาศาล ความเคลื่อนไหวของตลาด รวมถึงนักลงทุนสถาบันและปฏิกิริยาจากทั่วโลก จึงเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0