ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารจัดตั้ง 'คลังสำรองบิตคอยน์' สำหรับทรัพย์สินดิจิทัลที่รัฐบาลยึด
ทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อสร้าง ‘คลังสำรองบิตคอยน์’ (Bitcoin Strategic Reserve) สำหรับการถือครองบิตคอยน์(BTC) และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ในระยะยาว การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลสหรัฐสูญเสีย ‘โอกาสทำกำไร’ ไปถึง 16,140 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 23.5 ล้านล้านวอน) จากการขายบิตคอยน์ก่อนหน้านี้
เดวิด แซคส์ (David Sacks) หรือที่รู้จักกันในชื่อ 'Crypto Czar' ระบุผ่าน X (เดิมคือ Twitter) ว่าคำสั่งบริหารดังกล่าวกำหนดให้ทรัพย์สินบิตคอยน์ที่รัฐบาลยึดได้ต้องถูกเก็บรักษาใน 'Digital Fort Knox' และให้หน่วยงานรัฐบาลกลางพิจารณาวิธีการจัดซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมโดยไม่กระทบต่องบประมาณ ทั้งนี้ คำสั่งยังครอบคลุมการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่ถูกยึดไว้อีกด้วย
จากข้อมูลของ Lookonchain แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐถือครองบิตคอยน์ 198,109 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,920 ล้านดอลลาร์ (ราว 24.71 ล้านล้านวอน) ในขณะที่ที่ผ่านมามีการขายไปแล้ว 222,684 BTC ในราคาขายเฉลี่ย 14,736 ดอลลาร์ต่อเหรียญ รวมเป็นเงิน 3,280 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.8 ล้านล้านวอน) แต่หากยังคงถือไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าของบิตคอยน์ชุดดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 19,420 ล้านดอลลาร์ (ราว 28.35 ล้านล้านวอน) ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐ ‘พลาดกำไร’ ถึง 16,140 ล้านดอลลาร์
หลังคำสั่งบริหารนี้ถูกเปิดเผย ตลาดคริปโตมีปฏิกิริยาเชิงลบ โดยบิตคอยน์ร่วงลงประมาณ 5% แตะระดับ 85,000 ดอลลาร์ ขณะที่อีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP), คาร์ดาโน(ADA) และโซลานา(SOL) ต่างปรับตัวลดลง 4-8% นักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจนี้ไม่ได้รวมมาตรการเข้าซื้อเพิ่มอย่างที่ตลาดคาดหวัง แต่เป็นเพียงการ ‘ถือครอง’ สินทรัพย์ที่มีอยู่เท่านั้น ซึ่งทำให้นักลงทุนผิดหวัง
ความคิดเห็น 0