รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแนวทางสำรอง ‘บิตคอยน์(BTC)’ ด้วยกลยุทธ์ที่ไม่เพิ่มภาระให้กับผู้เสียภาษี โดยใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นหลักในการจัดหาบิตคอยน์
ตามข้อมูลของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ปัจจุบันประเทศมี ‘ปริมาณสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์’ ประมาณ 395 ล้านบาร์เรล ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 26.4 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 38.5 ล้านล้านวอน ในขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ถือครอง ‘ทองคำ’ ปริมาณ 258.6 ล้านออนซ์ (troy ounces) ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 10.9 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 15.9 ล้านล้านวอน รวมถึง ‘ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ’ ที่มีมูลค่าเกินกว่า 35 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 51.1 ล้านล้านวอน
ซินเทีย ลูมิส วุฒิสมาชิกจากรัฐไวโอมิง เคยเสนอร่าง ‘กฎหมายบิตคอยน์’ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าให้รัฐบาลสหรัฐฯ ควบคุม 5% ของอุปทานบิตคอยน์ทั่วโลก หรือประมาณ 1 ล้าน BTC โดยเธอเสนอให้ถือครองสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นเวลา 20 ปีเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ และในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เธอแนะนำให้ ‘เปลี่ยนทองคำสำรองบางส่วนเป็นบิตคอยน์’ เพื่อนำงบประมาณ 90 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 131.4 ล้านล้านวอน มาสนับสนุนแผนดังกล่าว
ด้าน เดวิด แซกส์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ให้ความเห็นว่าบิตคอยน์เป็นเสมือน ‘ทองคำดิจิทัล’ พร้อมระบุว่า แนวทางสำรองบิตคอยน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเป็นเหมือน ‘ห้องนิรภัยดิจิทัล (Digital Fort Knox)’ โดยเขาย้ำถึงความขาดแคลนของบิตคอยน์ และมองว่าอาจกลายเป็นสินทรัพย์สำรองที่มีความมั่นคงมากกว่าสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ
ความคิดเห็น 0