Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สหรัฐฯ คุมเข้มนโยบายสเตเบิลคอยน์ อาจส่งผลบวกต่อบิตคอยน์(BTC)

Mon, 10 Mar 2025, 21:29 pm UTC

สหรัฐฯ คุมเข้มนโยบายสเตเบิลคอยน์ อาจส่งผลบวกต่อบิตคอยน์(BTC) / Tokenpost

รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเพิ่มความเข้มงวดของนโยบายเกี่ยวกับ ‘สเตเบิลคอยน์’ เพื่อรักษาอำนาจของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินหลักของโลก ซึ่งอาจส่งผลให้ ‘บิตคอยน์(BTC)’ ได้รับประโยชน์โดยตรง นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนนโยบายที่เป็นมิตรต่อสินทรัพย์ดิจิทัลอาจช่วยกระตุ้นการลงทุนจากสถาบันมากขึ้น

เมื่อวันที่ 7 ทำเนียบขาวจัดการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับคริปโต ซึ่งสก็อต เบสเซนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่าตามคำสั่งจาก ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ รัฐบาลจะออกมาตรการควบคุมสเตเบิลคอยน์ให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อปกป้องสถานะของดอลลาร์สหรัฐในฐานะเงินสกุลหลักของโลก และยังระบุว่า “นโยบายควบคุมคริปโตโดยหน่วยงานด้านภาษีจะถูกผ่อนปรนลง” ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล

นอกจากนั้น ในวันเดียวกัน ‘ทรัมป์’ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีสาระสำคัญว่ารัฐบาลสามารถนำบิตคอยน์ที่ได้จากการยึดทรัพย์สินทางอาญามาใช้เป็น ‘สินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์’ แม้ว่ารัฐบาลยังไม่ซื้อบิตคอยน์โดยตรง แต่ถือเป็นสัญญาณว่าหน่วยงานภาครัฐอาจมองสินทรัพย์ดิจิทัลในแง่บวกรวมถึงการนำไปใช้ในเชิงปฏิบัติ

นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมให้ความเห็นว่าการเติบโตของตลาด ‘สเตเบิลคอยน์’ อาจส่งผลให้การลงทุนในบิตคอยน์ขยายตัวตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสหรัฐฯ ยังคงขยายอิทธิพลทางการเงิน ขณะที่ ‘โอห์มรี ฮาโนเวอร์’ ผู้จัดการทั่วไปของสตาร์ตอัปบล็อกเชน ‘เจมส์ เทรด’ มองว่าหากสหรัฐฯ ดำเนินนโยบายต่อไป สถาบันการเงินในยุโรปอาจลังเลและปล่อยให้เม็ดเงินไหลเข้าตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งอาจเร่งให้เกิดการนำบิตคอยน์มาใช้ในระดับสถาบันในอเมริกาอย่างรวดเร็ว

ขณะนี้ รัฐสภาสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับ ‘สเตเบิลคอยน์’ และ ‘โครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล’ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างความชัดเจนด้านกฎระเบียบและดึงดูดสถาบันการเงินเข้าสู่ตลาดคริปโตมากขึ้น

อีกด้านหนึ่ง มีสัญญาณว่าสถาบันที่ออกสเตเบิลคอยน์กำลังนำกำไรไปลงทุนในบิตคอยน์มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ‘เทเธอร์(USDT)’ ผู้ออกสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศว่าบริษัทจะนำ 15% ของกำไรไปลงทุนในบิตคอยน์ โดยข้อมูลล่าสุดเปิดเผยว่าผลกำไรสุทธิของ ‘เทเธอร์’ ในไตรมาสแรกปี 2024 อยู่ที่ 4.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.57 แสนล้านบาท) ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และอีกส่วนเกิดจากการลงทุนในบิตคอยน์และทอง

ตลาดคริปโตกำลังจับตามองว่าการกำหนดนโยบายของสหรัฐฯ กับสเตเบิลคอยน์ รวมถึงแนวทางการใช้บิตคอยน์ในเชิงยุทธศาสตร์ จะส่งผลอย่างไรต่ออนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม ภายใต้นโยบายของ ‘ทรัมป์’ ที่มีแนวโน้มสนับสนุนคริปโตมากขึ้น

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1