รัฐบาลปากีสถานปรับนโยบายกำกับดูแลคริปโต ตั้ง ‘คณะกรรมการสินทรัพย์ดิจิทัล’
เมื่อวันที่ 14 นายกรัฐมนตรีชาห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถาน ได้ลงนามจัดตั้ง ‘คณะกรรมการสินทรัพย์ดิจิทัลของปากีสถาน’ เพื่อกำหนดแนวทางกำกับดูแลตลาดคริปโต พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน คุ้มครองนักลงทุน และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน คณะกรรมการนี้จะมีบทบาทสำคัญในการร่างแนวปฏิบัติด้านกฎระเบียบสำหรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
กระทรวงการคลังของปากีสถานระบุว่า คณะกรรมการประกอบด้วยสมาชิก 5 คน โดยมีมูฮัมหมัด เอารังเซบ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเป็นประธาน และบิลาล บิน ซากิบ ที่ปรึกษาอาวุโสของกระทรวงการคลัง ดำรงตำแหน่งซีอีโอ ซากิบเป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการบล็อกเชนของสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ คณะกรรมการยังรวมถึงผู้ว่าการธนาคารกลางปากีสถาน(SBP) ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์(SECP) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ
แนวทางใหม่นี้สะท้อนให้เห็นว่าปากีสถานหันจาก ‘การห้าม’ ไปสู่ ‘การกำกับดูแลและส่งเสริม’ อุตสาหกรรมคริปโตโดยตรง เอารังเซบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยหลังการหารือกับคณะผู้แทนสหรัฐฯ ว่าตลาดการเงินโลกกำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็ว และปากีสถานจำเป็นต้องก้าวให้ทันกระแสนี้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลปากีสถานกำลังเดินหน้าผลักดันการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายธนาคารกลาง(SBP) เพื่อเพิ่มบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลและการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง(CBDC) อย่างไรก็ตาม มีข้อพิพาทภายในเกี่ยวกับเงื่อนไขการอนุญาตให้ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกลางถือสองสัญชาติ ซึ่งส่งผลให้กระบวนการทางกฎหมายล่าช้า
ในปัจจุบัน ตลาดคริปโตของปากีสถานกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลของ Chainalysis ประเทศนี้อยู่ในอันดับที่ 9 ของโลกในด้านการนำคริปโตมาใช้ในปี 2024 โดยมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ประมาณ 20 ล้านคน และมูลค่าการซื้อขายต่อปีทะลุ 20,000 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 29 ล้านล้านวอน)
นอกจากนี้ ภาวะเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงินท้องถิ่นได้กระตุ้นให้คริปโตกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกในปากีสถาน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจการโอนเงินระหว่างประเทศ ปัจจุบัน ปากีสถานมีมูลค่าธุรกรรมโอนเงินจากต่างประเทศสูงถึง 35,000 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 51 ล้านล้านวอน) ทำให้เกิดความต้องการสูงต่อการใช้คริปโตเพื่อลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรม
การจัดตั้งคณะกรรมการสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อระบบการเงินดิจิทัลของปากีสถาน และอุตสาหกรรมกำลังจับตามองว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลอย่างไรต่ออนาคตของตลาดคริปโตในประเทศนี้
ความคิดเห็น 0