ในช่วงที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุนในสหรัฐฯ ได้ลดการถือครองหุ้นในตลาดสหรัฐลงอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงบิตคอยน์(BTC) เผชิญกับแรงกดดันเพิ่มเติม
จากผลสำรวจล่าสุดของธนาคารแห่งอเมริกา(BofA) พบว่าผู้จัดการกองทุนได้ลดการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ลง 40 จุดเปอร์เซ็นต์ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการปรับลดรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 1994 นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นถดถอย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์
นอกจากนี้ ผลสำรวจจาก BofA ยังเผยว่า อัตราการถือเงินสดของนักลงทุนเพิ่มขึ้นจาก 3.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็น 4.1% ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2010 แสดงให้เห็นว่าตลาดกำลังเปลี่ยนไปหาสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า “ความเสี่ยงจากสงครามการค้าอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก” ขณะที่อีก 19% กังวลว่าเงินเฟ้ออาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
บิตคอยน์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนีแนสแด็กและ S&P 500 หากตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวน บิตคอยน์ก็อาจได้รับผลกระทบในทางลบ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการปรับฐานของบิตคอยน์ในขณะนี้เป็นส่วนหนึ่งของวงจรขาขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา บิตคอยน์เคยปรับตัวลงกว่า 25% หลังแตะระดับ 110,000 ดอลลาร์ แต่ในอดีต การปรับฐานลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นปกติในช่วงตลาดกระทิง นิค ฟอสเตอร์ ผู้ก่อตั้ง Derive Digital Asset Management ให้ความเห็นว่า “บิตคอยน์เคยผ่านช่วงปรับฐานในตลาดกระทิงหลายครั้ง และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น” แต่เขายังเตือนว่า “ทิศทางของตลาดการเงินแบบดั้งเดิมในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อราคาบิตคอยน์”
ในทางเทคนิค เมื่อวันที่ 19 มีนาคม บิตคอยน์ยังคงรักษาระดับเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์(EMA) ที่ 77,250 ดอลลาร์ หากบิตคอยน์สามารถรักษาระดับนี้ได้ อาจเปิดโอกาสให้ราคาปรับขึ้นต่อ แต่หากหลุดระดับนี้ แนวโน้มขาลงอาจเริ่มต้นขึ้น รายงานของ BofA เตือนว่า หากความเชื่อมั่นในตลาดลดลง บิตคอยน์มีโอกาสปรับตัวลงสู่แนวรับที่ 50,000 ดอลลาร์ หรือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 สัปดาห์
ในอีกด้านหนึ่ง นโยบายอัตราดอกเบี้ยของ Fed อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาบิตคอยน์ จากการสำรวจในเดือนมีนาคม พบว่า 68% ของผู้จัดการกองทุนคาดว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 เพิ่มขึ้นจาก 51% ในเดือนก่อนหน้า โดยในอดีต อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงมักส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงบิตคอยน์
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด หากบิตคอยน์สามารถรักษาระดับเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์ได้ มีโอกาสที่ราคาจะกลับไปทดสอบแนวต้าน 100,000 ดอลลาร์อีกครั้ง แต่หากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความกังวลในตลาดทุนยังคงอยู่ อาจมีแรงขายเพิ่มเติม นักลงทุนจึงควรติดตามปัจจัยเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของ Fed อย่างใกล้ชิดเพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ
ความคิดเห็น 0