ริปเปิล(XRP) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ใกล้จะปิดฉากคดีความอันยืดเยื้อแล้ว เมื่อวันที่ 25 (เวลาท้องถิ่น) สจวร์ต อัลเดอรอตี หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของริปเปิล ประกาศอย่างเป็นทางการว่า บริษัทได้ถอนอุทธรณ์ต่อ SEC และระบุว่านี่เป็น "การอัปเดตสุดท้ายเกี่ยวกับคดีความนี้"
ตามข้อตกลง ริปเปิลยังคงต้องชำระค่าปรับ 125 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,550 ล้านบาท) ซึ่งศาลแขวงใต้แห่งนิวยอร์กกำหนดไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม SEC จะเก็บเพียง 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,820 ล้านบาท) ส่วนที่เหลือจะถูกส่งคืนให้กับริปเปิล นอกจากนี้ SEC ยังวางแผนขอให้ศาลถอนคำสั่งห้ามที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้านี้ แต่กระบวนการทางกฎหมายยังคงต้องดำเนินการอย่างเป็นทางการ
แถลงการณ์ของอัลเดอรอตีเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ แบรด การ์ลิงเฮาส์ ซีอีโอของริปเปิล ส่งสัญญาณว่า SEC อาจถอนอุทธรณ์ เพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ยื่นเอกสารใหม่ต่อศาลอุทธรณ์ศาลที่ 2 และไม่มีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อศาลแขวงใต้นิวยอร์กตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ไบแนนซ์ ได้ดำเนินมาตรการกับผู้ดูแลสภาพคล่องรายหนึ่ง ซึ่งขายโทเคนมูฟ(MOVE) จำนวน 66 ล้านโทเคน แต่กลับมีคำสั่งซื้อเพียงเล็กน้อย ไบแนนซ์กู้คืนเงินจำนวน 38 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,340 ล้านบาท) จากผู้ดูแลสภาพคล่องรายนี้ และส่งต่อไปยังมูฟเมนต์ เน็ตเวิร์ก ฟาวเดชัน เพื่อใช้ในการซื้อโทเคน MOVE เพิ่มเติมในอนาคต
นอกจากนี้ ทรัมป์ มีเดีย ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับคริปโตดอทคอม เพื่อวางแผนเปิดตัวกองทุน ETF ที่ใช้คริปโตในสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวภายในปีนี้ และอาจขยายสู่ตลาดยุโรปและเอเชียต่อไป
คริส มาซาเลก ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของคริปโตดอทคอม กล่าวว่า "เราตั้งเป้าหมายให้ผู้ใช้กว่า 140 ล้านคนทั่วโลกสามารถเข้าถึง ETF นี้ได้ และเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลและหลักทรัพย์ที่มาจากสหรัฐ"
นักลงทุนในตลาดคริปโตคาดว่าข้อตกลงระหว่าง SEC และริปเปิล อาจส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะเดียวกัน การดำเนินการของไบแนนซ์และคริปโตดอทคอม อาจช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพของตลาดคริปโตให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0