ธนาคารยุโรปปรับตัวช้า ท่ามกลางความต้องการลงทุนคริปโตที่เพิ่มขึ้น

การสำรวจล่าสุดเผยว่า ธนาคารในยุโรปส่วนใหญ่ยังไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนในตลาดคริปโต

จากรายงานของ 'บิตแพนด้า(Bitpanda)' แพลตฟอร์มลงทุนในคริปโต พบว่า มีเพียงไม่ถึง 20% ของธนาคารและสถาบันการเงินในยุโรปที่ให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล การสำรวจนี้ดำเนินการใน 13 ประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 10,000 คน ซึ่งมากกว่า 40% ของพวกเขาเป็นเจ้าของคริปโตอยู่แล้ว และอีก 18% กำลังวางแผนจะลงทุนเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจในฝั่งของสถาบันการเงินกลับแสดงให้เห็นว่า มีเพียง 19% เท่านั้นที่มองว่าลูกค้ามีความต้องการสูงสำหรับบริการด้านคริปโต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง 'ช่องว่าง' มากถึง 30% ระหว่างการรับรู้ของธนาคารและพฤติกรรมการลงทุนที่เกิดขึ้นจริง

แม้จะมีสถาบันการเงินจำนวนมากที่มองว่า คริปโตเริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้น แต่ปัจจุบัน อัตราการให้บริการในหมู่ธนาคารยังคงอยู่ในระดับต่ำ รายงานระบุว่า กว่า 80% ของสถาบันทางการเงินในยุโรปยอมรับว่าคริปโตเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้มีการปรับตัวอย่างชัดเจน

เมื่อสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบมีความแน่นอนมากขึ้นและความต้องการขององค์กรเริ่มขยายตัว ธนาคารบางแห่งกำลังพิจารณาให้บริการด้านคริปโตเพิ่มขึ้น จากผลสำรวจพบว่า 18% ของสถาบันการเงินที่ตอบแบบสอบถามมีแผนจะขยายบริการคริปโตในอนาคต รวมถึงการทำธุรกรรมและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ด้านการกำกับดูแลในสหรัฐ วุฒิสภาได้ผ่านมติยกเลิก 'กฎระเบียบ IRS สำหรับโบรกเกอร์ DeFi' ซึ่งเคยกำหนดภาระหน้าที่ด้านภาษีให้กับโปรโตคอล DeFi ขณะนี้ มติดังกล่าวถูกส่งต่อไปยังประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนให้ยกเลิกกฎดังกล่าว

ในอีกด้านหนึ่ง ตลาดคริปโตเผชิญกับปัญหาการฉ้อโกง โดยแพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์ 'ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid)' ประกาศเพิกถอนผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์สของโทเคน JELLY หลังพบ 'พฤติกรรมการซื้อขายที่ผิดปกติ' ทั้งนี้ ทางแพลตฟอร์มยืนยันว่าจะดำเนินการชดเชยให้กับผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้