นโยบายคริปโตของสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ ท่าทีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ได้ผ่อนคลายลง ส่งผลให้มีการยกเลิกหรือยุติข้อพิพาททางกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงความเป็นไปได้ในการลดภาษีคริปโต ทำให้ตลาดเกิดความคาดหวังสูงขึ้น
เมื่อเร็วๆ นี้ รายการ ‘The Clear Crypto Podcast’ ของคอยน์เทเลกราฟได้วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รายการดังกล่าวเน้นว่า SEC กำลังยุติคดีความกับบริษัทคริปโตหลักๆ อย่างคอยน์เบส, คอนเซนซิส, ไบแนนซ์ และทรอน ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางการกำกับดูแลที่สำคัญจากอดีตที่เข้มงวด
แกเรธ เจนคินสัน นักข่าวจากคอยน์เทเลกราฟ กล่าวว่า ทิศทางใหม่นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมคริปโต พร้อมอธิบายว่า ภาคธุรกิจได้ใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อต่อสู้กับ SEC จนส่งผลให้ท่าทีของหน่วยงานรัฐเปลี่ยนไป เขากล่าวว่า “หากอุตสาหกรรมคริปโตไม่ลุกขึ้นมาต่อกรกับ SEC ด้วยกระบวนการทางกฎหมาย ปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้อาจได้รับผลกระทบหนักจากกฎระเบียบที่เข้มงวดเกินไป”
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายในอุตสาหกรรมคริปโตก็ให้ความสนใจต่อความเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน แคทเธอรีน เคิร์กแพทริก โบส หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของสตาร์กแวร์ กล่าวว่า “บทบาทของนักกฎหมายในอุตสาหกรรมคริปโตคือช่วยให้นวัตกรรมสามารถเดินหน้าได้ โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเหมาะสม” เธอยังเสริมว่า “แม้จะมีคนบางกลุ่มที่ใช้คริปโตในทางที่ผิด แต่นักกฎหมายส่วนใหญ่มีส่วนสำคัญในการผลักดันการพัฒนาของอุตสาหกรรมนี้”
อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือ การที่สหรัฐฯ อาจพิจารณานำบิตคอยน์(BTC) มาเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองของรัฐบาล ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์ในวงการแนะนำให้ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด
สุดท้าย แนวโน้มเรื่องการลดภาษีคริปโต การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการนำบิตคอยน์เข้าสู่ระบบทุนสำรองภาครัฐ อาจกลายเป็นโอกาสสำคัญสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับนโยบายที่ถูกประกาศเพิ่มในอนาคตและปฏิกิริยาจากภาคอุตสาหกรรมเอง
ความคิดเห็น 0