บีเอ็นบีเชน(BNB Chain) กำลังกลายเป็นจุดศูนย์กลางใหม่สำหรับกระแส *มีมคอยน์* แทนที่โซลานา(SOL) โดยดึงดูดทั้งโครงการใหม่และปริมาณการซื้อขายในดีไฟ(DeFi) ได้อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความน่าเชื่อถือที่ลดลงและการไหลออกของสภาพคล่องในระบบนิเวศของโซลานา บีเอ็นบีเชนจึงเข้ายึด*บทบาทผู้นำชั่วคราว*ของตลาดได้ในช่วงนี้
โซลานาสร้างชื่อจากการเป็นแหล่งชุมนุมของมีมคอยน์ที่อิงกับคนดังและการเมือง โดยเฉพาะโทเคนที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับความนิยมสูงในช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์ ‘ลิบรา(Libra)’ ซึ่งเชื่อมโยงกับประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ฮาเวียร์ มิลไร ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการซื้อขายล่วงหน้าจากวงใน ทำให้ *ความน่าเชื่อถือของระบบนิเวศมีมคอยน์ในโซลานาสั่นคลอนอย่างหนัก*
บีเอ็นบีเชนจึงฉวยโอกาสนี้ขยายอิทธิพล โดยใช้โครงการโฟร์.มีม(Four.Meme) เป็นจุดเริ่มต้น มีมคอยน์หลายตัวถูกนำเข้าไปยังแพลตฟอร์มไบแนนซ์ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเพื่อหวังผลตอบแทน แพลตฟอร์มดีไฟชื่อดังอย่างแพนเค้กสวอป(PancakeSwap) สามารถทำยอดซื้อขายได้สูงสุดในบรรดาเชนแบบ EVM นับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของบีเอ็นบีเชนในกิจกรรมดีไฟ
จัสติน บาร์โรว์ จากมูลนิธิเซย์(Sei Foundation) เผยว่า 2 โครงการมีมคอยน์บนบีเอ็นบีเชนสามารถสร้างปริมาณการซื้อขายได้ถึง 13% ของยอดรวมรายวันในแพนเค้กสวอป ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ‘การเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายย่อย’ กำลังผลักดันตลาดไปสู่จุดพีค
แม้ในอดีต บีเอ็นบีเชนจะเผชิญปัญหาความน่าเชื่อถือจากข้อครหาด้านการรวมศูนย์และโปรเจกต์ฉ้อโกง แต่ปัจจุบันเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นภาพลักษณ์ ผ่านการเปิดแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการสนับสนุนระบบนิเวศมีมคอยน์ที่ชัดเจน เช่นเดียวกับชื่อหมาที่จ้าวของไบแนนซ์อย่าง *ชางเผิง เจา(Changpeng Zhao)* เคยกล่าวถึงแบบล้อเล่นว่า ‘บรอกโคลี’ กลับกลายเป็นแรงบันดาลใจของมีมคอยน์แนวใหม่ซึ่งบางส่วนสามารถสร้่างรายได้เป็นล้านดอลลาร์
แม้ TVL (มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ถูกล็อกไว้ในโปรโตคอล) จะยังไม่เติบโต ปริมาณการซื้อขายที่พุ่งสูงขึ้นชี้ว่า *กระแสการลงทุนแบบเก็งกำไร* จากรายย่อยเริ่มมีบทบาทมากขึ้น เรเชล หลิน(Rachel Lin) ซีอีโอของซินฟิวเจอร์ส(SynFutures) มองว่า “บีเอ็นบีเชนคือจุดศูนย์กลางของการเทรดเชิงเก็งกำไรด้วยเม็ดเงินที่ไม่สูงนัก ซึ่งสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมแบบตรงไปตรงมาของนักลงทุนรายย่อยในตลาด”
ทางด้านโซลานา แม้ยังครองอันดับหนึ่งในด้านปริมาณธุรกรรมและจำนวนผู้ใช้งานต่อวัน แต่การเปิดตัวมีมคอยน์ใหม่ลดลงอย่างชัดเจน ข้อมูลจาก Pump.fun ชี้ว่ามีเพียงไม่ถึง 1% ของเหรียญที่ถูกสร้างใหม่สามารถเข้าสู่การซื้อขายในตลาดจริงได้ ปัญหานี้เริ่มเกิดจากอาการล้าในตลาดร่วมกับ*ความเชื่อมั่นที่ลดลง*
ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ทั้งหมดสะท้อน *วงจรการหมุนเวียน(Cycle)* ธรรมดาของอุตสาหกรรม อลัน ออร์วิก ผู้ร่วมก่อตั้งควายเน็ตเวิร์ก(Kwary Network) กล่าวว่า “การเปลี่ยนผู้นำในหมู่เชนต่างๆ ไม่ได้หมายถึงการครองอำนาจระยะยาว แต่สะท้อนถึงพฤติกรรมเฉพาะของผู้ใช้งานในแต่ละพื้นที่และความอ่อนไหวต่อราคาโดยตรง” พร้อมทั้งระบุว่าการไหลเข้าของนักลงทุนรายย่อยจากเอเชียสู่วงจรใหม่ในแพลตฟอร์มไบแนนซ์คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ
การขับเคลื่อนระหว่างโซลานาและบีเอ็นบีเชน จึงไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่เป็น *การแข่งขันเชิงอารมณ์และจิตวิทยาการลงทุนในตลาดมีมคอยน์* อย่างชัดเจน ในระยะยาว ความเชื่อมั่นของผู้ใช้ ความสามารถในการอยู่รอดของโปรเจกต์ และเสถียรภาพของสภาพคล่อง จะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะครองตลาดในที่สุด แม้ตอนนี้บีเอ็นบีเชนอาจเป็นดาวรุ่ง แต่ภายใต้โครงสร้างการหมุนเวียนที่รวดเร็ว ความสนใจของตลาดอาจพลิกกลับได้ทุกเมื่อ
ความคิดเห็น 0