ตลาดคริปโตกลับเข้าสู่โหมด ‘ปรับฐาน’ อีกครั้ง โดยมูลค่ารวมของสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกที่เคยพุ่งแตะระดับ 3.9 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,694 ล้านล้านวอน) ในช่วงจุดสูงสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2024 ได้ร่วงลงเหลือราว 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,942 ล้านล้านวอน) ในช่วงล่าสุด ภายในเวลาเพียง 4 เดือน ‘มูลค่าทรัพย์สินหายไปกว่า 30%’ ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลในตลาดการเงินโลกที่ยังคงส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
กระแสการปรับฐานครั้งนี้ยิ่งเร่งตัวหลังจาก ‘ทรัมป์’ แถลงนโยบายเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่เมื่อวันที่ 3 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องภาคอุตสาหกรรมในประเทศ มาตรการดังกล่าวซึ่งมุ่งเป้าไปยังประเทศคู่ค้าอย่างจีนและสหภาพยุโรป ส่งแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงินทั่วโลกทันที ขณะที่จีนและยุโรปก็ไม่รีรอ ประกาศ ‘ภาษีตอบโต้’ ทันที ทำให้ตลาดทุนในหลายประเทศเผชิญแรงขายอย่างหนัก
การปรับฐานกระทบทั้งตลาดหุ้นและพันธบัตร รวมถึงตลาดคริปโต อย่างไรก็ตาม *บิตคอยน์(BTC)* แสดงความแข็งแกร่งกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น โดยแม้ราคาจะร่วงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 74,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.08 ล้านบาท) แต่ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และยังคงรักษา ‘อิทธิพล’ ในตลาดไว้ได้
อัตราส่วนของ *บิตคอยน์* เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวม หรือที่เรียกว่า ‘BTC Dominance’ ก็กำลังพุ่งขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 64% เทียบกับต้นปีที่ผ่านมาที่ต่ำกว่านี้อย่างชัดเจน นี่เป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลัง ‘ย้ายทุน’ กลับไปยังสินทรัพย์ที่พวกเขาไว้วางใจในช่วงที่ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกทวีความรุนแรง
นักวิเคราะห์ประเมินว่าความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโตเวลานี้ ไม่ใช่แค่ผลกระทบในระยะสั้น แต่เกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับการเปลี่ยนแปลงในภูมิรัฐศาสตร์การค้า โดยเฉพาะนโยบาย ‘ปกป้องตัวเอง’ ของสหรัฐ ซึ่งมีแนวโน้มเขย่าโซ่อุปทานระดับโลก และอาจผลักดันราคาวัตถุดิบและสินค้าทั่วไปให้เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อในระยะยาว
ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ก็มีทางเลือกจำกัด เนื่องจากนโยบายดอกเบี้ยยังคงมีผลโดยตรงต่อสภาพคล่องในตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุน *JPมอร์แกน* เพิ่งปรับประมาณการว่าโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ขยับขึ้นแตะ 60% หากนโยบายภาษีของทรัมป์เริ่มกระทบต่อรายได้ของบริษัทและข้อมูลเศรษฐกิจอย่าง *GDP*
แม้จะเผชิญความไม่แน่นอนปกคลุมตลาด แต่ ‘ความยืดหยุ่น’ ที่ *บิตคอยน์* แสดงออกมาในช่วงนี้ เริ่มกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในมุมมองของนักลงทุนบางกลุ่ม ความเคลื่อนไหวของทรัมป์อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนระยะสั้นในตลาดทุน แต่ในระยะยาวอาจกลับกลายเป็นโอกาสที่ทำให้ *บิตคอยน์* และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้รับการมองใหม่ในฐานะ ‘สินทรัพย์ปลอดภัยเชิงเลือก’ ซึ่งตอบโจทย์ยุคเศรษฐกิจโลกที่ยากจะคาดเดาได้
ความคิดเห็น 0