ตลาดคริปโตทั่วโลกดิ่งลงหนักในวันที่ 7 (เวลาท้องถิ่น) โดยมูลค่าตลาดรวมร่วงลงถึง 7.79% เหลือเพียง 2.46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,586 ล้านล้านวอน) ภาวะร่วงหนักนี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วทั้งตลาด โดยมีการบังคับปิดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 9.85 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,436 พันล้านวอน)
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า *ต้นเหตุของการดิ่งลงในครั้งนี้* มาจากการลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐควบคู่กับ *มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าทั่วโลกของประธานาธิบดีทรัมป์* ซึ่งได้กดดันบรรยากาศการลงทุนและสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดสินทรัพย์ทั่วโลก
ตามรายงานของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล *Coinglass* มีการชำระบัญชีในตำแหน่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามูลค่ารวมกว่า 9.85 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงแรงขายอย่างหนักในเหรียญหลักอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ที่กระตุ้นให้เกิดการบังคับขายจำวนมาก
ราคาของ *บิตคอยน์(BTC)* ล่าสุดอยู่ที่ 77,338.50 ดอลลาร์ (ประมาณ 11.29 ล้านบาท) ลดลงจากวันก่อนหน้า 7.23% ขณะที่ *อีเธอเรียม(ETH)* ร่วงลงอย่างรุนแรงถึง 14.19% เหลือเพียง 1,551.52 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.26 ล้านบาท) นอกจากนี้ *ริปเปิล(XRP)* ลดลง 14.52% เหลือ 1.81 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,630 วอน), *โซลานา(SOL)* ลดลง 13.96% และ *ไบแนนซ์คอยน์(BNB)* ลดลง 6.51%
ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ได้ร่วงลงสู่ระดับ 17 คะแนน บ่งบอกถึง *สภาวะความกลัวขั้นรุนแรง* แม้ว่าตามปกติแล้วดัชนีนี้จะถูกตีความเป็นสัญญาณซื้อ แต่ด้วยความผันผวนที่สูงในขณะนี้ การเข้าตลาดโดยไม่ระวังอาจทำให้เกิดการขาดทุนได้ง่าย ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า *รอบนี้ไม่ใช่แค่การพักฐานของราคา แต่สะท้อนความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมหภาคที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ*
โดยเฉพาะ *ท่าทีของทรัมป์ในการผลักดันนโยบายการค้าปกป้องประเทศ* กำลังกระทบทั้งตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดคริปโตอย่างมีนัยสำคัญ ความเสี่ยงที่ตามมาคือการลดสภาพคล่องในระยะสั้น รวมถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้น
อนาคตของตลาดจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งระดับแนวรับของบิตคอยน์ การประกาศนโยบายกำกับดูแลใหม่ๆ และตัวเลขเศรษฐกิจจากสหรัฐ ในช่วงเวลาที่ตลาดกำลังไร้ทิศทางแบบนี้ นักลงทุนควรเปิดรับความเป็นไปได้ทั้งสองด้าน และหลีกเลี่ยงความหวังหรือความกลัวที่มากเกินไป ตาม *ความคิดเห็น* ของผู้เชี่ยวชาญหลายรายในตลาด.
ความคิดเห็น 0