กระแสข่าวเกี่ยวกับแนวทางใหม่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ลดความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายกับสกุลเงินดิจิทัล ส่งผลให้เบรย์เดน จอห์น คาโรนี(Braden John Karony) ซีอีโอของเซฟมูน(SafeMoon) ใช้จุดนี้เป็น *เหตุผล* ในการยื่นคำร้องขอถอนฟ้องต่อศาล
เมื่อวันที่ 9 ตามเวลาท้องถิ่น นิโคลัส สมิธ(Nicholas Smith) ทนายความของคาโรนี ยื่นหนังสือถึงศาลแขวงของรัฐบาลกลางในนิวยอร์ก โดยอ้างถึงคำสั่งของ ท็อด แบลนช์(Todd Blanche) รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้ประกาศเมื่อวันที่ 7 เกี่ยวกับการ *ยุบทีมบังคับใช้กฎหมายด้านคริปโต* และระงับคำฟ้องที่ใช้กรอบกฎหมายเก่าสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
ในบันทึกคำแถลง แบลนช์ระบุว่า “กระทรวงยุติธรรมไม่ใช่หน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล” พร้อมย้ำว่าจะไม่ *บังคับใช้กฎหมาย* โดยการขยายขอบเขตของกฎระเบียบเดิมไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลอีกต่อไป รวมถึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการอ้างกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์หรือสินค้าโภคภัณฑ์ หากยังมีพื้นฐานอื่นที่สามารถฟ้องร้องได้ เช่น ข้อหาฉ้อโกงผ่านระบบโทรคมนาคม (wire fraud)
ในการจัดทำคำร้อง ฝ่ายของคาโรนีได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ลูกค้าของตนไม่มีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในกรณีที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะถูกตีความเป็นหลักทรัพย์ และการยื่นขอยกฟ้องจึงควรได้รับการพิจารณากรณีพิเศษตาม *แนวปฏิบัติใหม่* ของกระทรวงยุติธรรม
ย้อนกลับไปเมื่อพฤศจิกายน 2023 คาโรนี พร้อมด้วยหุ้นส่วนร่วมก่อตั้งเซฟมูนอย่าง ไคล์ นากี(Kyle Nagy) และอดีตประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี โธมัส สมิธ(Thomas Smith) ถูกกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) แจ้งข้อหาหนัก ได้แก่ *ละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์, ฉ้อโกงทางไกล และฟอกเงิน* โดยกล่าวหาว่าทั้งสามมีส่วนในการยักยอกเงินลงทุนจากนักลงทุนกว่า 200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,920 ล้านบาท
การยื่นคำร้องในครั้งนี้ถือเป็น *กลยุทธ์ซ้ำ* ที่ฝ่ายของคาโรนีเคยใช้ก่อนหน้านี้ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ เขาได้อ้างว่านโยบายสนับสนุนคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์อาจส่งผลกระทบต่อแนวทางพิจารณาคดี พร้อมขอเลื่อนวันพิจารณาคดีเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 31 มีนาคม
ภายในเดือนเดียวกัน สมิธได้ยอมรับผิดโดยให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ส่วนนากีถูกเชื่อว่ายัง *หลบหนีอยู่ในรัสเซีย* ด้านเซฟมูนเองได้ยื่นฟ้องล้มละลายในเดือนธันวาคม 2023 หลังจากเผชิญเหตุถูกแฮ็กในช่วงเดือนมีนาคมปีเดียวกัน สูญเงินกว่า 80 ล้านดอลลาร์ และภายหลังจึงสามารถตกลงกับแฮ็กเกอร์เพื่อ *กู้เงินคืนได้ราว 80%* ของมูลค่าที่สูญไป
*ความคิดเห็น*: แนวทางใหม่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อาจเปิดช่องให้ผู้ถูกกล่าวหาคดีคริปโตจำนวนมากยื่นขอพิจารณาคดีใหม่หรือถอนฟ้อง ซึ่งอาจกระทบต่อท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลในอนาคต
ความคิดเห็น 0