บิตคอยน์(BTC) เริ่มแสดงสัญญาณเข้าสู่ภาวะ ‘ขาขึ้นต่อเนื่อง’ อีกครั้ง ท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาดพันธบัตรสหรัฐและนโยบายเศรษฐกิจที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับนักลงทุน โดยอาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) อดีตซีอีโอของบิทเม็กซ์(BitMEX) แสดงความคิดเห็นผ่านโพสต์บน X เมื่อไม่นานมานี้ว่า ความกังวลต่อภาระหนี้สาธารณะของสหรัฐและความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะลดดอกเบี้ย อาจเป็นตัวกระตุ้นให้บิตคอยน์กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 11 (เวลาท้องถิ่น) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 4.59% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองเดือน ขณะที่มูลค่าตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรวมกว่า 29 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 4,234 ล้านล้านวอน ได้ปรับตัวลดลงเกินกว่า 2% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการร่วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตสภาพคล่องในตลาดเรโปปี 2019 ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า ความเปราะบางของตลาดพันธบัตรและเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง กำลังผลักให้กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่อุปสงค์เพื่อสินทรัพย์ทางเลือก เช่น บิตคอยน์
หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะไม่แน่นอนในตลาดคือ นโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการพูดถึงการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากหลายประเทศ และเปลี่ยนจุดยืนอย่างฉับพลันกับบางราย แม้ว่ายังคงใช้อัตราภาษีสูงต่อจีนอยู่ ทำให้สถานการณ์การค้าทั่วโลกตึงเครียดมากขึ้น
ขณะเดียวกันดัชนีดอลลาร์(DXY) ซึ่งวัดมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเงินสกุลหลักอื่น ๆ ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 100 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 โดยในรอบสัปดาห์ยังร่วงหนักที่สุดในรอบ 2 ปีอีกด้วย ‘คำ’แนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์นี้ยิ่งช่วยเสริมบรรยากาศเชิงบวกต่อบิตคอยน์‘คำ’ โดยราคาล่าสุดของบิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 4.5% กลับมายืนที่ระดับ 83,250 ดอลลาร์ หรือราว 1.215 ล้านบาท
อาเธอร์ เฮย์ส กล่าวเพิ่มเติมว่า “หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไป มีความเป็นไปได้ที่จะมีมาตรการรับมือจากภาครัฐช่วงสุดสัปดาห์” และ “บิตคอยน์อาจเข้าสู่โหมดขาขึ้นอย่างเต็มตัว” ปัจจุบัน ตลาดฟิวเจอร์สของเฟดได้สะท้อนความคาดหวังว่า อาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งภายในปีนี้ และความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งในเชิงประวัติศาสตร์ การลดดอกเบี้ยมักจะเป็น 'ความคิดเห็น: ปัจจัยเชิงบวก' ต่อภาพรวมตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
นักวิเคราะห์คริปโตยังมองว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์อาจนำไปสู่ ‘แรลลี่ขาขึ้น’ ของบิตคอยน์ในระยะกลางถึงยาว โดยเวนเชอร์ฟาวน์เดอร์(Venturefounder) ระบุว่า “เมื่อ DXY ลดลง บิตคอยน์มักจะแสดงพฤติกรรมขึ้นช้า แต่เด่นชัด” และในกรณีที่ดัชนีลดลงสู่ระดับ 90 จุด ‘คำ’ก็มีแนวโน้มที่จะเห็นการพุ่งขึ้นแบบยอดแหลมของราคาบิตคอยน์‘คำ’ ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงปลายของตลาดกระทิง
ด้านสัญญาณทางเทคนิคก็ยืนยันแนวโน้มบวกเช่นกัน จอห์น บอลลินเจอร์(John Bollinger) ผู้พัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ชื่อดังระบุว่า “บิตคอยน์ที่ยังคงติดอยู่ที่แนวต้านบริเวณ 80,000 ดอลลาร์ เป็นรูปแบบปกติที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ตอนที่ราคากำลังสร้างฐานเพื่อการทะยานขึ้น” ขณะที่รูปแบบ ‘falling wedge’ หรือ ‘ลิ่มขาลง’ บนกราฟเทคนิคเริ่มเข้าสู่ช่วงปลาย ซึ่งบ่งชี้ว่า ‘คำ’ราคาบิตคอยน์อาจพุ่งแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.46 ล้านบาทในอนาคตอันใกล้‘คำ’
ปัจจัยที่หนุนให้บิตคอยน์มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องอุปสงค์ระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแนวโน้มเงินดอลลาร์อ่อนค่า ท่าทีเชิงผ่อนคลายของเฟด และการแสวงหาสินทรัพย์ทางเลือก ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายจากรัฐบาลทรัมป์และความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ตลาดจึงมีความหวังว่า ‘คำ’บิตคอยน์จะสามารถยืนยันสถานะ ‘สินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ’ ได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต‘คำ’
ความคิดเห็น 0