ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังทรัมป์ประกาศระงับนโยบาย ‘ภาษีตอบโต้’ เป็นเวลา 90 วัน โดยหนึ่งในกระแสที่โดดเด่นที่สุดคือ ‘พาร์ตคอยน์’ เหรียญมีมชื่อดังบนเครือข่ายโซลานา(SOL) ซึ่งได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 12 ตามรายงานของ CryptoDotNews พาร์ตคอยน์พุ่งขึ้นกว่า 30% ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมที่ราคา 0.95 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 300% เมื่อเทียบกับระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคม
ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศลดภาษีนำเข้าสำหรับประเทศต่าง ๆ ลงเหลือ 10% เมื่อวันที่ 10 ขณะที่จีนถูกปรับขึ้นอัตราภาษีจาก 104% เป็น 125% อย่างไรก็ตาม การแสดงความพร้อมในการเจรจากับจีนในเวลาต่อมา ส่งผลให้ตลาดตอบรับในเชิงบวก
พาร์ตคอยน์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 900 ล้านดอลลาร์ ติดอันดับท็อป 90 ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก ข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์แสดงให้เห็นว่าค่าการถือสัญญาเปิด(OI) ของพาร์ตคอยน์ขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 420 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 4.4 เท่าภายในหนึ่งเดือน
ในด้านข้อมูลออนเชน พบว่าปริมาณเหรียญพาร์ตคอยน์ที่อยู่ในกระดานเทรดลดลง 15% เหลือราว 120.4 ล้านเหรียญ โดยส่วนใหญ่มีการไหลออกจากแพลตฟอร์มอย่าง Bitget, MEXC, KuCoin และ Gate ซึ่งผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า นักลงทุนอาจย้ายเหรียญไปเก็บไว้ในกระเป๋าเงินส่วนตัวหรือใช้ในการลงทุนผ่าน DeFi
*ความคิดเห็น* ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดมองว่า การผ่อนคลายนโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาด บรรดานักลงทุนเริ่มมองหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเหรียญมีมมากขึ้น และหากบรรยากาศการเจรจากับจีนนั้นดำเนินต่อไป ก็อาจมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่โทเคนใหม่ ๆ เช่น ‘พรอมพท์’ และ ‘เบบี้’ เพิ่มขึ้นในระยะสั้น
ทั้งนี้ โทเคนปัญญาประดิษฐ์อย่าง พรอมพท์ เพิ่มขึ้นถึง 94% ขณะที่ เบบี้ ซึ่งมีพื้นฐานจากบิตคอยน์(BTC) แบบสเตกกิง ก็ปรับตัวขึ้นกว่า 40% ในช่วงวันเดียวกัน ท่ามกลางกระแสตลาดที่เริ่มเปิดรับโทเคนใหม่มากขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0