โครงการสเตเบิลคอยน์สังเคราะห์ ‘อีเซนา แล็บส์(Ethena Labs)’ ประกาศถอนตัวออกจากประเทศเยอรมนีหลังสำนักงานกำกับด้านการเงินเยอรมนี หรือ ‘บาฟิน(BaFin)’ ระบุปัญหาด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ USDe(USDE) โดยทางอีเซนาได้ยุติการดำเนินงานทั้งหมดของ ‘อีเซนา จีเอ็มบีเอช’ บริษัทลูกในเยอรมนี และหยุดการออกและรับซื้อคืน USDe ตั้งแต่วันที่ 21 ของเดือนที่ผ่านมา
อีเซนาเปิดเผยผ่านแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า จะไม่ดำเนินการขอใบอนุญาต ‘MiCAR’ ซึ่งเป็นกรอบกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปอีกต่อไป หลังจากที่บาฟินได้ออกข้อสังเกตตั้งแต่เดือนมีนาคมว่า USDe อาจฝ่าฝืนกฎหมายหลักทรัพย์ และตรวจพบระบบควบคุมภายในที่อ่อนแอ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการคุมเข้มสินทรัพย์ดิจิทัลในเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของยุโรปอย่างเยอรมนี
ในอีกด้านหนึ่ง ธนาคารกลางเอลซัลวาดอร์เปิดเผยว่า จากผู้ให้บริการบิตคอยน์(BTC) ที่ลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 181 แห่ง มีเพียง 20 แห่ง หรือราว *11%* เท่านั้นที่ยังคงดำเนินการอยู่ ในขณะที่ผู้ให้บริการอีก *161 แห่ง* ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขพื้นฐานของกฎหมายได้ และถูกจัดอยู่ในกลุ่มไม่ดำเนินการ
กฎหมายบิตคอยน์ของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์มุ่งเน้นการสร้างระบบป้องกันการฟอกเงิน (AML) การรักษาประวัติการเงิน และการจัดทำระบบความปลอดภัยไซเบอร์ แต่บริษัทส่วนมากยังไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะ *22 บริษัท* ที่ไม่ผ่านเกณฑ์แทบทุกข้อ ปัจจุบัน มีเพียงบางรายที่ผ่านเกณฑ์ เช่น ‘ชิโว่ วอลเล็ต(Chivo Wallet)’ กระเป๋าเงินดิจิทัลของรัฐ, ‘คริปโต เทรดดิ้ง แอนด์ อินเวสต์เมนต์’ และ ‘ฟินเทค อเมริกาส(Fintech Américas)’
ขณะเดียวกัน เจค กาเลน(Jake Gallen) ซีอีโอของแพลตฟอร์ม NFT ‘เอ็มเบลม โวลต์(Emblem Vault)’ ถูกแฮ็กผ่านแอปประชุม ‘Zoom’ สูญเสียทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่ากว่า *100,000 ดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 1.46 ล้านบาท) โดยกาเลนเปิดเผยว่า ขณะทำการพูดคุยกับยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 90,000 คนผ่าน Zoom ฝ่ายตรงข้ามได้ขอสิทธิ์ควบคุมคอมพิวเตอร์และติดตั้งมัลแวร์โดยที่ไม่ได้ระวังตัว
การโจมตีครั้งนี้มาจากกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า ‘ELUSIVE COMET’ โดยประเภทของคริปโตที่ถูกขโมยรวมถึงบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และเหรียญจากกระเป๋าเงินหลากหลายใบ
แซมคซัน(Samczsun) ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระบุว่า ตามมาตรฐานของ Zoom ผู้ใช้งานต้องยินยอมก่อนจึงจะถูกควบคุมระบบจากระยะไกลได้ แต่เตือนว่า ‘การหลอกลวงทางสังคม (Social Engineering)’ ยังเป็นช่องโหว่ที่เสี่ยงมาก ความคิดเห็น: ผู้ใช้งานคริปโตควรปิดใช้งานฟีเจอร์ควบคุมระยะไกลในโปรแกรมประชุมต่างๆ เพื่อป้องกันทรัพย์สินดิจิทัลของตนเอง
ความคิดเห็น 0