โทเคน OM ของโปรเจกต์แมนทรา(MANTRA) เผชิญวิกฤตการณ์ดิ่งลงอย่างรุนแรงคล้ายกับกรณีของลูน่า จนทำให้ซีอีโอของแมนทรา จอห์น เมอร์ลิน ประกาศว่าจะ ‘เผา’ โทเคนทั้งหมดที่ทีมผู้พัฒนาถือครอง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของชุมชนผู้ถือครองและนักลงทุน
เมื่อวันที่ 16 เมอร์ลินกล่าวผ่าน X ว่า “ผมจะเผาโทเคนทีมทั้งหมด และให้ชุมชนและนักลงทุนเป็นผู้ตัดสินว่า ผมสมควรได้รับมันคืนเมื่อโปรเจกต์กลับสู่ภาวะปกติหรือไม่” โดยโทเคนดังกล่าวมีจำนวนประมาณ 300 ล้าน OM คิดเป็น 16.88% ของอุปทานทั้งหมด และเดิมถูกจัดสรรไว้ให้ทีมงานและผู้มีส่วนร่วมหลัก โทเคนส่วนนี้ถูกตั้งใจปลดล็อกเป็นเฟส ตั้งแต่เมษายน 2027 ถึงตุลาคม 2029
ขณะนี้ OM ถูกซื้อขายอยู่ที่ระดับ 0.78 ดอลลาร์ ทำให้โทเคนที่ทีมครอบครองมีมูลค่าประมาณ 236 ล้านดอลลาร์ เทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติในวันที่ 13 เมษายน ซึ่งมูลค่าดังกล่าวพุ่งไปถึง 1.89 พันล้านดอลลาร์ OM เคยร่วงจากระดับสูงสุด 6.30 ดอลลาร์ เหลือเพียง 0.52 ดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปราว 5.5 พันล้านดอลลาร์
แม้แผนการเผาโทเคนของเมอร์ลินได้รับเสียงสนับสนุนจากบางส่วนในชุมชน แต่ก็มีผู้แสดงความกังวลว่าอาจทำให้แรงจูงใจของทีมในระยะยาวลดลง ราน นิวเนอร์ ผู้ก่อตั้ง Crypto Banter แสดงความเห็นว่า “แม้เป็นท่าทีที่ดูดี แต่อาจบั่นทอนแรงจูงใจของทีมในระยะยาว” ซึ่งเมอร์ลินก็เปิดรับด้วยการเสนอให้ใช้การลงคะแนนเสียงจากชุมชนเป็นตัวตัดสิน
นอกจากนี้ เมอร์ลินยังให้คำมั่นจะเผยแพร่รายงานวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อสะท้อน ‘ความโปร่งใส’ ของโครงการ พร้อมประกาศแผนใช้กองทุนขนาด 109 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากระบบนิเวศ (ecosystem fund) ในการเข้าซื้อคืนและเผาโทเคน เพื่อพยุงราคาของ OM
ทางแมนทราได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าควบคุมโทเคน OM มากถึง 90% หรือมีส่วนพัวพันกับการปั่นราคา โดยระบุว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการ ‘ถูกชำระบัญชีแบบไร้การควบคุม’ ด้านไบแนนซ์และ OKX ก็ยืนยันว่ามีการซื้อขาย OM ในปริมาณมากก่อนเกิดวิกฤติจริง แต่เป็นผลมาจากโทเคนโนมิกส์เดิมและความผันผวนสูงของราคา
เมอร์ลินได้กล่าวขอบคุณชุมชนสำหรับกำลังใจที่มีให้ในช่วงวิกฤติ “แมนทราได้ผ่านรอบวัฏจักรของตลาดมาหลายครั้ง และเราจะยังคงสร้างต่อไป” พร้อมกล่าวถึงความสูญเสียของผู้เทรด และชื่นชมการสนับสนุนจากนักลงทุนระยะยาวอย่างโชรุก พาร์ทเนอร์ส และเรเซอร์ ดิจิทัล ที่ยังคงยืนหยัดเคียงข้างโปรเจกต์
ความคิดเห็น 0