สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงคดีระหว่างบริษัทริปเปิล(Ripple)กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) กำลังกลายเป็น *ปัจจัยสำคัญ* ที่ขับเคลื่อนตลาดคริปโตในขณะนี้ โดยเมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) จีนแสดงท่าทีตอบโต้สหรัฐอย่างแข็งกร้าว หลังสหรัฐประกาศเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 245% สำหรับสินค้าจากจีน พร้อมกันนี้ จีนยังได้จำกัดการส่งออกแร่แรร์เอิร์ธ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญต่อเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมด้านความมั่นคงของสหรัฐ เป็นเหตุให้ทำเนียบขาวออกมากล่าวหาว่า จีนใช้มาตรการตอบโต้ในเชิงยุทธศาสตร์
จีนจึงเดินหน้าเก็บภาษีสินค้าสหรัฐในอัตรา 125% พร้อมทั้งยื่นเรื่องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อดำเนินการตามกติกาสากล สถานการณ์นี้สร้าง *ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจระดับมหภาค* ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโตเคอร์เรนซี
ทางด้านบริษัทริปเปิล การต่อสู้ทางกฎหมายกับ SEC ที่ยืดเยื้อมาเกือบ 10 ปี กำลังเข้าสู่ช่วงปลาย ริปเปิลได้ยื่นคำร้องต่อผู้พิพากษาแอนาลิซา ตอร์เรส เพื่อขอคำวินิจฉัยเชิงบ่งชี้เกี่ยวกับ ‘การขาย XRP แบบส่วนตัวให้กับนักลงทุนสถาบัน’ ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO ในอนาคต ขณะเดียวกัน แม้มีแนวโน้มว่าอาจมีการเจรจาประนีประนอม แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่กระบวนการทางกฎหมายจะยืดเยื้อไปจนถึงปี 2027
ท่ามกลางความเคลื่อนไหวนี้ ราคาของริปเปิล(XRP) พุ่งขึ้นกว่า 20% ทะลุระดับ 2 ดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์มองว่าหากความไม่แน่นอนทางกฎหมายคลี่คลาย และริปเปิลสามารถเดินหน้า IPO ได้จริง XRP อาจพุ่งขึ้นถึง 10 ดอลลาร์ในระยะกลาง ซึ่งอาจเกิดการเคลื่อนไหวแบบ ‘พาราโบลา’ อย่างรุนแรงตามความเห็นของนักวิเคราะห์หลายราย
*ความคิดเห็น:* นักลงทุนควรจับตาสองประเด็นหลัก ได้แก่ ความคืบหน้าของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และทิศทางของคดีระหว่างริปเปิลกับ SEC เพราะทั้งสองประเด็นอาจเป็นตัวกำหนดสภาพตลาดคริปโตในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นักลงทุนควรวางกลยุทธ์ลงทุนอย่างรอบคอบและเน้นการบริหารความเสี่ยงเป็นสำคัญ
ความคิดเห็น 0