แคธี วูด(Cathie Wood) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาร์กอินเวสต์ แสดงมุมมองเชิงบวกต่อ *นโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์* โดยระบุว่าแม้จะดูเป็น “ช็อกบำบัด” แต่ก็อาจเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การค้าเสรีในระดับโลกมากขึ้น
เมื่อวันที่ 15 วูดได้กล่าวผ่านจดหมายข่าวรายสัปดาห์ว่า *นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์* อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเจรจาในระดับที่จริงจัง เปิดทางไปสู่การปรับโครงสร้างของระบบการค้าระหว่างประเทศ เธอระบุว่า ในขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าแนวนโยบายดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลเสียทั้งในเชิงเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ แต่ก็อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามจากที่คาดไว้ โดยเปรียบเทียบว่าอาจดูเหมือนเป็น “การขึ้นภาษีย้อนกลับครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ” แต่แท้จริงแล้วอาจเป็นแนวทางสร้างสรรค์เพื่อเปิดการเจรจา
วูดยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การดำเนินนโยบายแบบ “ช็อกบำบัด” ที่ยึดตามหลักการต่างตอบแทนของทรัมป์ แม้จะก่อให้เกิดความสับสนในช่วงแรก แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นกลยุทธ์เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือและเจรจาในระดับสูง และในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวนั้น เธอเชื่อว่าทั้งรัฐบาลและธนาคารกลางสหรัฐจะสามารถใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้
แม้จะให้การสนับสนุนนโยบายของทรัมป์ วูดก็แนะนำงานวิจัยล่าสุดของอาร์เธอร์ แลฟเฟอร์(Arthur Laffer) นักเศรษฐศาสตร์ผู้สร้างชื่อจาก "เส้นโค้งแลฟเฟอร์" ซึ่งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างภาษีและรายได้ของรัฐ โดยวูดกล่าวว่างานวิจัยของแลฟเฟอร์มีมุมมองทางประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งและมีตรรกะที่แข็งแรง “เป็นหนึ่งในบทความที่ดีที่สุดที่เคยเห็นมา” ตามความคิดเห็นของเธอ
แลฟเฟอร์ได้เผยแพร่รายงานชื่อ *ความจริงของภาษีศุลกากรและการค้า* เมื่อวันที่ 11 เมษายน ซึ่งเขาโต้แย้งว่า *ภาษีศุลกากร* ขัดต่อหลักการของเศรษฐกิจตลาดเสรี และส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน ผลผลิต และรายได้ภาษี
นอกจากนี้ แลฟเฟอร์ยังยกย่องอีลอน มัสก์(Elon Musk) ที่สนับสนุนแนวทางการค้าเสรี โดยวูดยังเน้นว่ามัสก์เป็นผู้ที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการค้าและนโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์อย่างจริงจังและชัดเจน
ความคิดเห็น 0