เมื่อไตรมาส 2 ของปี 2025 เริ่มต้นขึ้น ตลาดคริปโตต้องเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่จากนโยบายภาษีใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งสร้างความกังวลในหมู่นักลงทุน เนื่องจากการสิ้นสุดของการยกเว้นภาษีชั่วคราวกับจีนเป็นเวลา 90 วันอาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการค้าอีกระลอกหนึ่ง
แม้ทรัมป์จะถูกมองว่าเป็นประธานาธิบดีที่ ‘เป็นมิตรต่อคริปโต’ แต่ตลาดกลับตกอยู่ในแนวโน้มขาลงในช่วงต้นปี โดยในไตรมาสแรก ราคาของอีเธอเรียม(ETH) ลดลงถึง 40% ขณะที่บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงไปแตะระดับ 78,000 ดอลลาร์ ก่อนจะพลิกฟื้นเล็กน้อยในเวลาต่อมา
ตามรายงานแนวโน้มตลาดประจำเดือนเมษายนของบริษัทโคอินเบส ระบุว่า ความผันผวนดังกล่าวอาจยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายสัปดาห์ โดยมี ‘สงครามภาษี’ และนโยบายการเงินแบบเข้มงวดเป็นปัจจัยหลักที่สร้างแรงกดดันต่อราคาในช่วงเมษายนถึงกลางพฤษภาคม
สินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตเคอร์เรนซีถูกกระทบก่อน ด้วยราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งบิตคอยน์และดัชนี COIN50 ตกลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งบรรดานักเทรดมองว่าเป็นสัญญาณของ ‘ตลาดหมี’ ขณะที่ดัชนีความกลัวและความโลภของตลาดแสดงระดับ ‘หวาดกลัวอย่างสุดขีด’ ซึ่งสะท้อนภาวะตึงเครียดที่ครอบคลุมทั้งตลาด
อย่างไรก็ตาม โคอินเบสยังคงมองโลกในแง่ดี โดยคาดว่าตลาดอาจกลับมาฟื้นตัวในช่วงพฤษภาคมหรือมิถุนายน โดยอ้างอิงเหตุการณ์ในปี 2020 ที่บิตคอยน์เคยร่วงอย่างหนักในเดือนมีนาคม แล้วฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคม จนนำไปสู่รอบกระทิงขนาดใหญ่ในภายหลัง โคอินเบสมองว่าแนวโน้มปี 2025 ก็อาจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และนักลงทุนบางส่วนอาจถือโอกาสปัจจุบันเพื่อเข้าสะสมเพิ่มเติม
ด้านนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง แมตต์ โฮแกน มองว่าแนวโน้มของตลาดในไตรมาส 2 จะปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องระดับโลก นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น และกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในสหรัฐเกี่ยวกับคริปโต นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายภาษีของทรัมป์ อาจกำลังทำให้นักลงทุนพิจารณาการกระจายพอร์ตใหม่อีกครั้ง โดยโฮแกนยังคงประเมินไว้ว่า *บิตคอยน์อาจแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้*
โคอินเบสยังระบุเพิ่มเติมว่า หากตลาดสามารถฟื้นตัวในไตรมาส 2 ได้ ก็อาจจะได้เห็น ‘การเติบโตในระยะยาวอย่างแข็งแกร่ง’ ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยให้เหตุผลสำคัญคือการ *ลดลงครึ่งหนึ่งของบิตคอยน์* ครั้งล่าสุด ซึ่งในอดีตเหตุการณ์นี้เคยนำไปสู่การพุ่งขึ้นของราคาในระยะสั้นถึงกลาง
นอกจากนี้ การเปิดตัวกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐ ยังทำให้มีการเข้าร่วมจากนักลงทุนสถาบันมากขึ้น สร้างความมั่นคงและส่งเสริมการลงทุนระยะยาว โคอินเบสยังอ้างอิงรายงาน ‘Big Ideas 2025’ จากบริษัท ARK อินเวสต์ ที่คาดการณ์ว่าการนำเทคโนโลยีคริปโตมาใช้จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อรวมกับสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่กำลังดีขึ้นในสหรัฐ ก็จะช่วยลดความกลัวของตลาด และเปิดประตูให้ผู้เล่นรายใหม่เข้ามามากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0