ไบบิต(Bybit) ประกาศยุติบริการ Web3 หลักทั้งหมดภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ตามการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ต่อเนื่องจากการปิดตลาด NFT เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยบริการที่ได้รับผลกระทบรวมถึง *กระเป๋าเงินคลาวด์, กระเป๋าเงินไร้คีย์, แพลตฟอร์ม DEX แบบมัลติเชน, ฟีเจอร์ Swap และ Bridge* ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ Web3 ของไบบิต
จากประกาศอย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์ของไบบิตเมื่อวันที่ 16 บริษัทระบุว่า การปรับพอร์ตโฟลิโอนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนทิศทางเทคโนโลยีและกลยุทธ์ในการพัฒนา Web3 ใหม่ โดยจะยุติทั้ง *กระเป๋าเงินแบบมีผู้ดูแล(Cloud Wallet)*, *กระเป๋าเงินไร้คีย์(Keyless Wallet)*, *ตลาด NFT*, *DEX Pro* รวมถึงเครื่องมือ *Swap & Bridge* ที่ใช้เชื่อมโยงสินทรัพย์ข้ามเครือข่าย ทั้งนี้ไม่ได้เปิดเผยเหตุผลโดยละเอียดหรือแผนรองรับในอนาคต
*ความคิดเห็น:* การยุติบริการเหล่านี้อาจส่งผลกระทบในระดับที่ผู้ใช้งานสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นบริการที่มีการใช้งานจริงในระบบ ขณะเดียวกัน การขาดคำอธิบายที่ชัดเจนจากไบบิต ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางธุรกิจ Web3 ของแพลตฟอร์มในระยะต่อไป
การประกาศล่าสุดนี้เป็นครั้งที่สองในรอบไม่กี่สัปดาห์ หลังจากไบบิตปิดตลาด NFT ไปเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการใช้งานที่ต่ำ โดยบางฝ่ายมองว่าการถอนตัวต่อเนื่องนี้สะท้อนว่า โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน Web3 ของไบบิตที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2022 อาจไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง
ไบบิตซึ่งเริ่มต้นจากแพลตฟอร์มอนุพันธ์แบบรวมศูนย์ ได้ขยายธุรกิจไปยังโทเคนกำกับดูแล, กระเป๋าเงินแบบกระจายศูนย์, NFT และดีไฟน์ แต่เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในสภาวะเศรษฐกิจมหภาค บริษัทจึงหันกลับมาโฟกัสที่ *การเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน* มากกว่าการขยายธุรกิจ
ผู้เชี่ยวชาญในวงการมองว่า การเคลื่อนไหวของไบบิตเป็นส่วนหนึ่งของกระแส *“เลือกแนวทางที่ถนัดและตัดสิ่งที่ไม่จำเป็น”* ซึ่งเริ่มเห็นมากขึ้นในภาคธุรกิจ Web3 ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งด้านกฎระเบียบและการสร้างผลกำไร โดยเฉพาะสำหรับแพลตฟอร์มที่ยังอยู่ระหว่างการหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมในโลกกระจายศูนย์
ความคิดเห็น 0