Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

โครเมียเปิดตัวเวกเตอร์ดาต้าเบสออนเชน ลดต้นทุน AI บนบล็อกเชนได้ถึง 57%

Fri, 18 Apr 2025, 14:52 pm UTC

โครเมียเปิดตัวเวกเตอร์ดาต้าเบสออนเชน ลดต้นทุน AI บนบล็อกเชนได้ถึง 57% / Tokenpost

เทคโนโลยีเวกเตอร์ดาต้าเบสแบบออนเชนของโครงการโครเมีย(Chromia) กำลังได้รับความสนใจในฐานะ *โครงสร้างพื้นฐานหลัก* สำหรับการผสานระหว่าง *ปัญญาประดิษฐ์(AI)* และ *บล็อกเชน* โดย *ไทเกอร์รีเสิร์ช(Tiger Research)* เผยแพร่รายงานล่าสุด วิเคราะห์ว่าเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงลึกของทั้งสองเทคโนโลยี โดยเฉพาะในแง่ของความ *คุ้มค่า,* *ความสะดวกสำหรับนักพัฒนา* และ *การรวมฟังก์ชันการประมวลผลเวกเตอร์ AI บนเครือข่ายบล็อกเชนโดยตรง*

แม้ AI จะกำลังแทรกซึมเข้าสู่ทุกภาคอุตสาหกรรม แต่การผนวกระหว่าง AI กับบล็อกเชนกลับติดข้อจำกัดด้านเทคนิคและต้นทุนที่สูง ทำให้หลายโปรเจกต์ Web3 ที่เกี่ยวข้องกับ AI เน้นเพียง *การตลาดมากกว่านวัตกรรมจริง* บ่อยครั้งกลายเป็นเพียงกระแสเก็งกำไรที่ราคาตกลงกว่า 90% จากจุดสูงสุด *ไทเกอร์รีเสิร์ช* ระบุว่า ต้นตอของปัญหานี้คือ *อุปสรรคด้านการใช้ข้อมูลออนเชน* ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้การรวมตัวของเทคโนโลยียังไม่เกิดขึ้นจริง

เพื่อลดข้อจำกัดนี้ โครเมียได้นำ PgVector ซึ่งเป็นโมดูลส่วนขยายของฐานข้อมูล PostgreSQL มาใช้สร้าง *เวกเตอร์ดาต้าเบสแบบออนเชน* แห่งแรก ซึ่งสามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นข้อความ, รูปภาพ และเสียงในรูปแบบของเวกเตอร์ โดยอิงจากความหมายและความคล้ายคลึงกัน ซึ่งเหมาะสำหรับระบบ AI ขั้นสูงและถือเป็น *การบูรณาการเชิงลึกระหว่าง AI กับบล็อกเชน*

นวัตกรรมนี้ถูกนำมาใช้งานจริงผ่าน *เมนเน็ตมิมีร์(Mimir Mainnet)* เมื่อเดือนมีนาคม 2025 โดยใช้รูปแบบ SCU(Server Computation Unit) ซึ่งเป็นโมเดลเซิร์ฟเวอร์ให้เช่า ทำให้ *ต้นทุนถูกลงถึง 57%* เมื่อเทียบกับระบบคลาวด์ทั่วไป พร้อมตัดความจำเป็นในการเชื่อมต่อกับระบบ AI ภายนอก ปรับให้องค์ประกอบต่างๆ เช่น *การจัดเก็บ, ประมวลผล,* และ *ค้นหาข้อมูล* ทำได้บนบล็อกเชนทั้งหมด ถือเป็นโครงสร้างแบบผสานรวมที่ช่วยเพิ่ม *ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพ* ให้ทั้งผู้ใช้และนักลงทุน

ตัวอย่างการใช้งานเริ่มทยอยปรากฏ เช่น แพลตฟอร์ม *AI เว็บ3 รีเสิร์ชฮับ* ที่ใช้เวกเตอร์ดาต้าเบสของโครเมียในการวิเคราะห์ข้อมูลออนเชนแบบเรียลไทม์ และสื่อสารผลลัพธ์ผ่านเอเจนต์ AI เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ใช้ ถือเป็นการลด ‘*อุปสรรคของการพัฒนา AI บนบล็อกเชน*’ เปิดทางสู่การสร้าง *ระบบ AI flywheel* ซึ่งสามารถเก็บและเรียนรู้จากข้อมูลในวงกว้างได้ในระยะยาว

อนาคตของโครเมียจะเน้นพัฒนาใน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ *ต่อยอดความสามารถระบบจัดทำดัชนีสำหรับเครือข่ายที่รองรับ EVM*, *ขยายฟังก์ชัน AI inferencing*, และ *สร้างพันธมิตรเพื่อขยายระบบนิเวศ* ทั้งยังมีแผนพัฒนาเครื่องมือให้สามารถสื่อสารกับโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สได้ง่ายขึ้น และลดความซับซ้อนของการเขียน Query บนบล็อกเชน เพื่อดึงดูดนักพัฒนามากขึ้น

การวิจัยฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่า โครเมียประสบความสำเร็จในการเป็น *แพลตฟอร์มแรกที่สามารถรัน AI บนบล็อกเชนได้จริง* ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้บล็อกเชนกลายเป็นมากกว่าเครื่องมือจัดเก็บข้อมูลและทำธุรกรรมธรรมดา แต่ก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์ม *ประมวลผล AI ขั้นสูง* อย่างแท้จริง หากสามารถพิสูจน์กรณีใช้งานจริงและโมเดลโทเค็นที่มั่นคงได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า โครเมียมีความเป็นไปได้ที่จะแปรตัวเป็น *โครงสร้างพื้นฐานหลักในระบบนิเวศ AI-Web3* ได้อย่างมั่นคงในอนาคต.

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1