บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์และการเงินชื่อดัง ‘ลูทนิค’ เตรียมร่วมมือกับซอฟต์แบงก์จากญี่ปุ่น, ผู้ออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ชื่อดัง เทเธอร์(USDT) และแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชื่อดัง บิทไฟเนกซ์ เพื่อจัดตั้งบริษัท ‘สแปก’ (SPAC) ด้านคริปโตเคอร์เรนซี มูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.38 แสนล้านวอน
เมื่อวันที่ 23 ตามรายงานของ Financial Times ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าว 3 รายที่เกี่ยวข้องโดยตรง ลูทนิคและกลุ่มพันธมิตรมีแผนจะใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมเชิงนโยบายที่เป็นมิตรกับคริปโตภายใต้รัฐบาลของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ในการผลักดันบริษัทนี้เข้าสู่ตลาดหุ้น โดยแผนการนี้มีเป้าหมายในการก่อตั้งบริษัทด้านการเข้าซื้อกิจการที่มุ่งเน้นในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัล และเล็งจะเดินตามแนวทางของ *ไมเคิล เซย์เลอร์*(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครสแตรทิจี(MSTR) ซึ่งเคยสะสมบิตคอยน์(BTC) ในปริมาณมหาศาลเป็นกลยุทธ์หลัก
ฝั่งลูทนิคเองซึ่งบริหารงานในฐานะผู้นำของธนาคารเพื่อการลงทุน แคนเตอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ได้จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ ‘21 แคปิตอล’ ไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีการระดมทุนครั้งแรกแล้วกว่า 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.92 หมื่นล้านวอน) โดยต่อยอดด้วยเงินลงทุนในรูปแบบที่จับต้องได้จากพันธมิตรหลัก ไม่ว่าจะเป็น เทเธอร์ ที่จะซื้อบิตคอยน์ในมูลค่ากว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.19 แสนล้านวอน), ซอฟต์แบงก์ที่ลงทุน 900 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.31 แสนล้านวอน) และบิทไฟเนกซ์อีก 600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.76 หมื่นล้านวอน)
นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรยังวางแผนออกหุ้นกู้แปลงสภาพเพิ่มอีก 350 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.11 หมื่นล้านวอน) พร้อมทั้งมุ่งระดมเงินเพิ่มอีก 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.92 หมื่นล้านวอน) จากตลาดไพรเวตอิควิตี เพื่อนำมาใช้เสริมกำลังในการฝากซื้อบิตคอยน์ระยะถัดไป
ความคิดเห็น: แผนการนี้มีรากฐานจากความคาดหวังว่า *ท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อคริปโตในยุคทรัมป์จะผ่อนปรนขึ้น* ทั้งในด้านกฎหมายและการกำกับดูแล ซึ่งถือเป็นโอกาสทองสำหรับบริษัทใหญ่ ๆ ที่สนใจลงทุนในบิตคอยน์และทรัพย์สินดิจิทัลในเชิงกลยุทธ์ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดว่าโมเดลการร่วมลงทุนครั้งนี้อาจเป็น ‘แม่แบบ’ ใหม่สำหรับการเข้าสู่ตลาดของนักลงทุนองค์กรขนาดใหญ่ในอนาคต
ความคิดเห็น 0