รัฐบาลสหรัฐเสนอข้อตกลงรับสารภาพให้กับผู้ต้องหาในคดีแฮ็กบัญชี X ของ SEC
เมื่อวันที่ 9 มีเอกสารที่ยื่นต่อศาลแขวงสหรัฐในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งระบุว่าทางอัยการได้เสนอข้อตกลงให้กับเอริค เคาน์ซิล จูเนียร์ ผู้ต้องสงสัยในคดีแฮ็กบัญชี X(เดิมคือทวิตเตอร์) ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) โดยเสนอให้เขายอมจำนนเงินที่ได้มาโดยมิชอบเป็นจำนวน 50,000 ดอลลาร์(ประมาณ 7.25 ล้านบาท)
เอริค เคาน์ซิล จูเนียร์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮ็กครั้งนี้ ซึ่งทำให้เกิดการโพสต์ข้อความปลอมเกี่ยวกับการอนุมัติ ‘บิตคอยน์(BTC) ETF’ บนบัญชีทางการของ SEC โดยทางอัยการกำลังพิจารณาปรับลดโทษให้ หากเขายอมรับข้อกล่าวหาเรื่อง ‘การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล’ และ ‘วางแผนฉ้อโกงการเข้าถึงระบบ’
ในเหตุการณ์เมื่อเดือนมกราคม 2024 กลุ่มแฮ็กเกอร์ใช้วิธีโจมตีด้วย ‘SIM Swap’ เข้าควบคุมบัญชี X ของ SEC และโพสต์ข้อความปลอมโดยใช้รูปของแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ประธาน SEC เพื่อสร้างความเข้าใจผิดว่า ‘บิตคอยน์ ETF ได้รับการอนุมัติแล้ว’ อย่างไรก็ตาม SEC ได้ลบโพสต์ดังกล่าวทันที และประกาศอนุมัติ ‘บิตคอยน์ ETF’ อย่างเป็นทางการในวันถัดมา
คาดว่าเอริค เคาน์ซิล จูเนียร์ จะต้องเข้าพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้
**อีเธอเรียม(ETH) ETP แซงหน้าบิตคอยน์ ETP ในการไหลเข้าของเงินทุน**
ตามรายงานของ ‘CoinShares’ เมื่อวันที่ 10 พบว่าผลิตภัณฑ์การลงทุนในคริปโต(ETP) มีการไหลเข้าสุทธิถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์(ประมาณ 1.89 แสนล้านบาท) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย ‘อีเธอเรียม ETP’ มีมูลค่าการไหลเข้าสูงถึง 793 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 1.15 แสนล้านบาท) หรือ ‘มากกว่าบิตคอยน์ ETP ถึง 95%’ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่ ‘อีเธอเรียม ETP’ มีเงินไหลเข้าแซงหน้าบิตคอยน์
เจมส์ บัตเตอร์ฟิลด์(James Butterfill) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ CoinShares ให้ความเห็นว่า “นักลงทุนเข้าซื้ออีเธอเรียมเป็นจำนวนมาก หลังจากราคาลดลงต่ำกว่า 2,700 ดอลลาร์(ประมาณ 391,000 บาท) เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการไหลเข้าของ ‘บิตคอยน์ ETP’ จะลดลง 19% จากสัปดาห์ก่อนหน้า เหลือ 407 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 59,000 ล้านบาท) แต่เมื่อนับรวมตั้งแต่ต้นปี บิตคอยน์ยังคงครองส่วนแบ่งสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์(ประมาณ 8.7 แสนล้านบาท) หรือ ‘มากกว่าอีเธอเรียมถึง 505%’
**ตลาดคริปโตผันผวนหลังจากทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีเหล็กและอลูมิเนียม**
เมื่อวันที่ 9 ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศกำหนดอัตราภาษี 25% สำหรับสินค้าประเภทเหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งส่งผลให้ตลาดคริปโตเกิดการปรับฐานชั่วคราว ราคาบิตคอยน์ร่วงลงไปแตะ 94,000 ดอลลาร์(ประมาณ 13.63 ล้านบาท) ก่อนดีดตัวกลับสู่ระดับ 97,000 ดอลลาร์(ประมาณ 14.07 ล้านบาท) ภายในเวลาเพียงสองชั่วโมง ในขณะที่อีเธอเรียม ลดลงไปต่ำสุดที่ 2,537 ดอลลาร์(ประมาณ 368,000 บาท) ก่อนฟื้นตัวกลับมาที่ 2,645 ดอลลาร์(ประมาณ 384,000 บาท)
การประกาศครั้งนี้ของทรัมป์ มีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้น การประกาศภาษี 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก รวมถึงภาษี 10% สำหรับสินค้าจากจีน ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินแบบดั้งเดิม และลากตลาดคริปโตปรับตัวลงไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อทรัมป์ประกาศ ‘ชะลอการใช้ภาษีเป็นเวลา 30 วัน’ ตลาดก็สามารถฟื้นตัวได้ทันที จึงมีการคาดการณ์ว่า นโยบายภาษีล่าสุดนี้อาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดคริปโตในระยะสั้น ขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายแล้วมาตรการนี้จะถูกนำมาใช้จริงหรือไม่
ความคิดเห็น 0