เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) เฮลิอุม(Helium) ประกาศจับมือกับเอทีแอนด์ที(AT&T) ในความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อขยายบริการไวไฟครอบคลุมทั่วสหรัฐอเมริกา โดยภายใต้ความร่วมมือนี้ ลูกค้าของเอทีแอนด์ทีจะสามารถเข้าถึงเครือข่ายไวไฟที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนของเฮลิอุมได้ ช่วงเวลานี้ เฮลิอุมมีจุดให้บริการฮอตสปอตไวไฟแล้วมากกว่า 93,500 จุดทั่วประเทศ
ก่อนหน้านี้ เฮลิอุมได้รับความร่วมมือจากทั้งผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ รวมถึงโมบิสตาร์(Movistar) หนึ่งในเครือข่ายของเทเลโฟนิกา(Telefonica) ประเทศสเปน รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือน(MVNO) หลายราย ในเป้าหมายเดียวกันคือการเพิ่มพื้นที่ครอบคลุมของไวไฟ
อาเมียร์ ฮาลีม(Amir Haleem) ผู้ร่วมก่อตั้งเฮลิอุมและซีอีโอของเฮลิอุม โมบายล์ เปิดเผยว่า “ความร่วมมือกับเอทีแอนด์ทีถือเป็นก้าวสำคัญในพันธกิจของเราที่ต้องการนำการเชื่อมต่อราคาย่อมเยาและเข้าถึงได้ให้กับสาธารณชน” พร้อมเสริมว่า “การจับมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมระดับโลกนี้จะช่วยเร่งการยอมรับเครือข่ายเฮลิอุม พร้อมมอบ *คุณค่าเชิงรูปธรรม* ทั้งต่อเอทีแอนด์ทีและผู้ใช้งานของพวกเขา”
หลังการประกาศข่าว ราคาของโทเคนเฮลิอุม (HNT) ปรับตัวขึ้นราว 6% แตะระดับ 3.79 ดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายของทวีปอเมริกาเหนือ โดย HNT ขยับขึ้นแล้วกว่า *44% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา* ส่งผลให้มีมูลค่าตลาดรวมราว 844 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยในช่วง 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์
ในมุมเชิงเทคนิค กราฟรายวันแสดงให้เห็นว่า HNT กำลังยืนยันการ *เบรกขึ้น* รอบใหม่ และมีแนวโน้มจะทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 9.7 ดอลลาร์ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า พร้อมกันนี้ อินดิเคเตอร์ MACD รายวันได้แสดงสัญญาณบวก โดยการตัดผ่านเส้นสัญญาณขึ้นครั้งแรกในปี 2025 แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่ *เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน* ความคิดเห็น: การร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมอย่าง AT&T ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับโปรเจกต์เฮลิอุม และอาจเป็นส่วนหนึ่งที่จุดประกายแรงซื้อในโทเคน HNT อย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0