ช่วง 90 วันแรกของการขึ้นดำรงตำแหน่งของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ถือเป็นช่วงเวลาท้าทายสำหรับราคาบิตคอยน์(BTC)และอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวม แม้จะมีสัญญาณเชิงบวกจากภาครัฐ เช่น การจัดการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งแรกในทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 7 มีนาคม แต่ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลกลับยังคงปรับตัวลง ท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามการค้าและความเสี่ยงด้านภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในตลาดเริ่มพลิกฟื้นในสัปดาห์นี้ เมื่อมีรายงานว่า *ทรัมป์* อาจลดท่าทีในสงครามภาษีเต็มรูปแบบกับจีน ส่งผลให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น ประกอบกับการที่ *ทรัมป์ มีเดีย แอนด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป* ประกาศจับมือกับ *คริปโตดอทคอม(Crypto.com)* เพื่อตั้งกองทุน ETF ภายใต้ชื่อ ‘Made in America’ ก็ได้กลายเป็นแรงส่งสำคัญให้กับตลาด
ท่ามกลางกระแสเหล่านี้ การเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุนสถาบันกลับเข้าสู่กองทุน ETF บิตคอยน์ก็เริ่มชัดเจนมากขึ้น จากข้อมูลของผู้วิเคราะห์ออนเชน *Glassnode* ในวันที่ 21 เมษายน มีการไหลเข้าสุทธิในกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตทั้ง 11 กองในสหรัฐรวมมูลค่า 381.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,570 พันล้านวอน) โดยเฉพาะ *ARK21Shares* ครองสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
วันที่ 22 เมษายน ยิ่งตอกย้ำกระแสดังกล่าว เมื่อมีการไหลเข้าของเงินทุนสุทธิมูลค่าถึง 912.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13,320 พันล้านวอน) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ โดยเม็ดเงินกระจุกตัวใน *ARK21Shares*, *ฟิเดลิตี้(Fidelity)* และ *แบล็คร็อก(BlackRock)* บ่งชี้การกลับมาลงทุนอย่างจริงจังของภาคสถาบัน
แรงซื้อที่กลับมาหนุนบิตคอยน์อย่างชัดเจนช่วยให้ราคาฟื้นตัวแตะระดับ 94,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,373,000 บาท) ณ วันที่ 23 เมษายน ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของคริปโตเคลื่อนไหวเข้าใกล้ระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์อีกครั้ง ความเชื่อมั่นและ *ความหวังเชิงบวก* จึงเริ่มหวนคืนสู่วงการดิจิทัลอีกครั้ง
*ความคิดเห็น:* การกลับมามีบทบาทของ *ทรัมป์* ในบริบทของคริปโตดูเหมือนจะเป็นแรงสั่นสะเทือนทั้งในเชิงการเมืองและการลงทุน ซึ่งอาจมีผลต่อช่วงเลือกตั้งและทิศทางนโยบายเกี่ยวกับคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0