Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

นักลงทุนโทเคนล็อกอัปขาดทุนเฉลี่ย 50% ท่ามกลางแรงกดดันโทเคนมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์จ่อขายตลาด

Sun, 27 Apr 2025, 00:36 am UTC

นักลงทุนโทเคนล็อกอัปขาดทุนเฉลี่ย 50% ท่ามกลางแรงกดดันโทเคนมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์จ่อขายตลาด / Tokenpost

นักลงทุนโทเคนล็อกอัปขาดทุนเฉลี่ย 50% ต่อปี ท่ามกลางความกังวลโทเคนมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์เตรียมถูกขายเพิ่ม

นักลงทุนในโทเคนที่มีการล็อกอัปต้องเผชิญกับการขาดทุนเฉลี่ยกว่า ‘50%’ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากการสำรวจของบริษัทวิจัย สติ๊กซ์ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 ตามเวลาท้องถิ่น นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความกังวลเพิ่มขึ้น เมื่อโทเคนหลักมูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 56.8 ล้านล้านวอน) กำลังทยอยปลดล็อกเข้าสู่ตลาด

ทารัน ซับฮาวัล(Taran Sabhawal) ผู้ก่อตั้งสติ๊กซ์ เปิดเผยว่า ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2024 ถึงเดือนเมษายน 2025 ราคาซื้อขายในตลาดนอกรายการ(OTC)ของโทเคนเหล่านี้ลดลงเฉลี่ย ‘50%’ เมื่อเทียบกับราคาตลาดปัจจุบัน พร้อมระบุว่า นักลงทุนจำนวนมากพลาดโอกาสขายทำกำไรที่ราคาสูงถึงสองเท่าในช่วงต้นปี 2024

จากผลการสำรวจพบว่า หลายโครงการต้องเผชิญกับการลดลงของมูลค่าอย่างรุนแรง โครงการสกรีลล์(SCR) และบลาสต์(BLAST) ร่วงหนักสุดถึง ‘85%’ และ ‘88%’ ตามลำดับ ด้านไอเกนเลเยอร์(EIGEN) อ่อนค่ากว่า ‘75%’ ขณะที่ ซีเคซิงก์(ZK) ลดลง ‘64%’, เวิร์มโฮล(W) ตกลง ‘50%’ และ ไอโอดอตเน็ต(IO) ร่วง ‘48%’ มีเพียง จีโต(JITO) เท่านั้นที่สามารถปรับตัวขึ้นมาได้ถึง ‘75%’

นอกจากนี้ ผลกระทบที่นักลงทุนโทเคนล็อกอัปเผชิญยังเกินกว่าค่าเฉลี่ยการลดลงของตลาดคริปโตทั้งหมดที่อยู่ที่ ‘40.7%’ ตามข้อมูลจากอาร์เทมิส(Artemis) โดยเมื่อเปรียบเทียบกับบิตคอยน์(BTC) ซึ่งมีราคาสูงขึ้นถึง ‘45%’ ในช่วงเวลาเดียวกัน นักลงทุนโทเคนล็อกอัปจึงต้องเผชิญกับโอกาสในการขาดทุนเพิ่มอีกกว่า ‘31%’ ซึ่งนับว่ามีความเสียหายอย่างมหาศาลในมุมของต้นทุนทางโอกาส

ในตลาดนอกขณะนี้ โทเคนที่ปลดล็อกพร้อมขายมูลค่ากว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ กำลังถูกเสนอขายในราคาลดกว่า ‘50%’ ความเสียหายนี้หมายความว่า หากนักลงทุนลงทุน ‘1 ดอลลาร์’ เมื่อ 1 ปีก่อน ในขณะที่บิตคอยน์จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น ‘1.45 ดอลลาร์’ แต่โทเคนล็อกอัปเหลือมูลค่าเพียง ‘0.5 ดอลลาร์’ และหากนำส่วนลดในตลาด OTC มาคิด ก็จะเหลือไม่ถึง ‘0.25 ดอลลาร์’ เทียบกับบิตคอยน์แล้วถือว่าขาดทุนกว่า ‘82.8%’ และเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ก็ขาดทุนถึง ‘75%’

ซับฮาวัลยังกล่าวเสริมว่า การที่ช่วงเวลาคลิฟ(Cliff) ของโทเคนจำนวนมากสิ้นสุดภายในปี 2025 ทำให้ระยะเวลาการล็อกอัปสั้นลง และส่งผลให้ส่วนลดในตลาดลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโทเคนล็อกอัปโดยทั่วไปจะมีข้อจำกัดการขาย นักลงทุนจึงไม่สามารถตอบสนองต่อความผันผวนของราคาตลาดได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ ‘ความคิดเห็น’ 🚀

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1