ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเงินระดับโลก มีการคาดการณ์ว่า *ริปเปิล(XRP)* อาจกลายเป็นโซลูชั่นสำคัญที่ธนาคารทั่วโลกนำมาใช้ในอนาคต โดย *บูร์ซาน อัลซารา* ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ *แบล็กสวอน แคปิตอลลิสต์* แสดงความเห็นว่า ในท้ายที่สุด ‘ทุกธนาคาร’ จะหันมาใช้เครือข่ายของริปเปิล
อัลซาราอธิบายว่า หลายบริษัทขนาดใหญ่ในขณะนี้กำลังเผชิญกับภาระหนี้สินจำนวนมาก และหากบริษัทเหล่านี้ล้มลง อาจส่งผลกระทบแบบลูกโซ่ต่อระบบเศรษฐกิจโลก เขาชี้ว่า เมื่อเกิดการบังคับขายหลักทรัพย์ (margin call) ขึ้น นักลงทุนจำนวนมากอาจจำเป็นต้องเทขายสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดการปรับตัวลดลงของราคาตลาดอย่างฉับพลัน
ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ เขาเตือนว่าระบบการปล่อยสินเชื่ออาจเกิดภาวะ ‘หยุดชะงัก’ ส่งผลต่อธนาคาร ระบบการเงิน และปัญหาสังคม เช่น การเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานและการเข้าถึงเงินทุนที่ยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม อัลซาราเสนอว่า *ริปเปิล(XRP)* อาจกลายเป็นเครื่องมือหลักในการรักษาสภาพคล่องของระบบการเงิน โดยเฉพาะด้านการโอนเงินข้ามประเทศ ซึ่ง XRP สามารถทำธุรกรรมได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที มีความรวดเร็วเหนือระบบของธนาคารทั่วไป
เขายังระบุว่า ริปเปิลได้ ‘ร่วมมือ’ กับธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกแล้ว โดยบางแห่งเลือกใช้ *XRP* สำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศโดยตรง ขณะที่ธนาคารอื่น ๆ ใช้ระบบของริปเปิลที่อิงจากความสามารถด้านสภาพคล่องของ XRP เพื่อออก IOU แทน
นอกจากนี้ เขายังยกตัวอย่างว่า ประเทศเล็ก ๆ อย่าง *บาร์เบโดส* มีการนำระบบของริปเปิลไปใช้อย่างเป็นทางการแล้ว อีกทั้งยังอ้างว่า สถาบันการเงินรายใหญ่อย่าง *แบล็คร็อก* และ *เจพีมอร์แกน* ต่างเห็นพ้องอย่างไม่เป็นทางการถึงบทบาทของ XRP ในระบบการเงินแห่งอนาคต
ในด้านตลาด ราคา*ริปเปิล(XRP)* ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2.26 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม อัลซารามองว่ามูลค่าที่แท้จริงของ XRP นั้นสูงกว่าราคาปัจจุบันมาก โดยเขาคาดเดาว่า XRP อาจมีราคาสูงถึงระหว่าง 100 ถึง 1,000 ดอลลาร์ในอนาคต แต่ก็ยอมรับว่า หาก XRP จะขึ้นไปแตะ 100 ดอลลาร์ จำเป็นต้องมีการเติบโตถึง 4,900% จากระดับ 2.08 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ ‘ท้าทาย’ อย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน
ความคิดเห็น 0