Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ไพคอยน์(PI) วูบ 79% หลังราคาพุ่งช่วงต้นปี ผู้ถือครองเร่งหาทางถอนทุนท่ามกลางเงื่อนไขจำกัด

ไพคอยน์(PI) วูบ 79% หลังราคาพุ่งช่วงต้นปี ผู้ถือครองเร่งหาทางถอนทุนท่ามกลางเงื่อนไขจำกัด / Tokenpost

หากคุณถือครองเหรียญ *ไพคอยน์(PI)* อยู่ ก็คงเคยตั้งคำถามว่า ‘จะขายได้เมื่อไหร่ และต้องทำอย่างไร’ อย่างน้อยสักครั้ง เหรียญนี้เริ่มต้นจากโปรเจกต์ *ไพเน็ตเวิร์ก(Pi Network)* ที่ชูแนวคิด ‘ไร้ศูนย์กลาง’ และโดดเด่นด้วยการขุดเหรียญผ่านมือถือที่ง่าย ทำให้จำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถึงวันนี้ ระบบ ‘เมนเน็ต’ ยังคงเป็นแบบปิด ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อาจพุ่งสูง และการจำกัดช่องทางการซื้อขาย ทำให้กระแสความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไพเน็ตเวิร์กอ้างว่ามีผู้ใช้งานลงทะเบียนมากกว่า 600,000 ราย ณ สิ้นปี 2024 อย่างไรก็ตาม บนบล็อกเชนจริง มีกระเป๋าเงินประมาณ 9.11 ล้านใบเท่านั้น และมีผู้ใช้งานประจำวันเพียง 20,000 ราย นอกจากนี้ โครงสร้างระบบยังคงอยู่ในช่วง ‘เมนเน็ตแบบปิด’ ทำให้การโอนเหรียญยังเป็นไปอย่างจำกัด และอุปทานรวมของเหรียญพุ่งขึ้นถึง 2 เท่าภายในหนึ่งปี ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่สร้างความกังวลด้านเสถียรภาพของตลาด

แม้จะมีข้อจำกัดหลายด้าน แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 *ไพคอยน์* ได้เริ่มมีการซื้อขายในตลาดซื้อขายแบบรวมศูนย์(CEX) บางแห่ง โดยราคาพุ่งขึ้นไปแตะที่ประมาณ 2.98 ดอลลาร์ (ราว 4,350 บาท) ในช่วงนั้น อย่างไรก็ดี เมื่อถึงวันที่ 28 เมษายน 2025 ราคาลดลงมาจนเหลือเพียง 0.62 ดอลลาร์ (ประมาณ 905 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาสูงสุดเกือบ 79% สภาพคล่องของเหรียญอยู่ในระดับต่ำ และปริมาณซื้อขายก็ลดลง ทำให้มีแนวโน้มว่าอาจปรับตัวลงต่อ

ความไม่ชัดเจนในด้านความน่าเชื่อถือและประโยชน์ใช้งาน ทำให้ผู้ร่วมโครงการระยะแรกหลายคนเริ่มพิจารณาวิธีถอนทุนคืน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย การขายไพคอยน์จำเป็นต้องมี ‘กระเป๋าเงินส่วนตัว’ โดยสามารถสร้างได้ผ่านเมนู ‘wallet.pi’ บนแอป *Pi Browser* หลังจากนั้นจะได้รับ 'ซี้ดวลี' 24 คำ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงกระเป๋า หากทำหายจะไม่สามารถกู้คืนเหรียญได้ เนื่องจากทางโครงการไม่เก็บข้อมูลนี้ จึงควรจดไว้ในที่ปลอดภัยแบบออฟไลน์

ในกรณีที่ต้องการขายไพคอยน์ ส่วนใหญ่จะต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน(KYC) ทั้งในตลาด CEX และแพลตฟอร์ม P2P ซึ่ง *ไพเน็ตเวิร์ก* ใช้ระบบตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้งานผ่านโหนดในแต่ละภูมิภาค ส่งผลให้มีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอยู่เสมอ นอกจากนี้ บางแพลตฟอร์มที่มีระบบรักษาความปลอดภัยระดับต่ำหรือขาดสภาพคล่อง ก็มีประวัติเกิดเหตุฉ้อโกง จึงควรตรวจสอบชื่อเสียงและค่าว่าธรรมเนียมอย่างถี่ถ้วนก่อนทำการซื้อขาย

สำหรับนักลงทุน การทำ *DYOR* หรือศึกษาข้อมูลด้วยตนเองอย่างจริงจังยังคงเป็นสิ่งจำเป็น ไพคอยน์กลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างมากในวงการคริปโต – บางรายมองว่าเป็น ‘บิตคอยน์รุ่นใหม่’ ขณะที่บางรายมองว่าไม่มีฐานการใช้งานที่แท้จริง และพึ่งพารายได้จากโฆษณามากเกินไป โครงการ *Pi Ad Network* ที่เปิดตัวในปี 2024 ช่วยให้เหล่านักพัฒนาสามารถรับเหรียญจากระบบโฆษณาในระบบนิเวศน์ของ Pi แต่ก็ยังไม่สามารถแสดงประโยชน์ชัดเจน นอกเหนือจากจูงใจให้คนเข้ามาใช้งานมากขึ้น

‘อนาคตของไพคอยน์’ จึงขึ้นอยู่กับว่า *ไพเน็ตเวิร์ก* จะเปิดระบบ *เมนเน็ต* ให้สาธารณะอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ และสามารถสร้างระบบนิเวศน์ที่แข็งแรงได้มากแค่ไหน แต่สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการถอนทุน สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการวางแผนให้ดี เพื่อรับมือกับราคาปัจจุบันและเงื่อนไขการซื้อขายที่ยังจำกัดอยู่ในวงแคบ ความรอบคอบจะเป็นปัจจัยชี้ชะตาการตัดสินใจครั้งนี้ของหลายคน

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความหลัก

คราเคนเตรียมซื้อ ‘นินจาเทรดเดอร์’ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ รุกตลาดฟิวเจอร์สสหรัฐฯ

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1