ราคาของริปเปิล(XRP) ยังคงอยู่ในภาวะ ‘ขาลง’ โดยมีการวิเคราะห์ว่าเกิดจากปัจจัยหลากหลายที่ส่งผลร่วมกัน โดยเฉพาะความอ่อนแอของแรงซื้อที่ไม่สามารถหนุนราคาให้ทะยานขึ้นได้อย่างยั่งยืน
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ราคา XRP แสดงแนวโน้ม ‘ลดลงต่อเนื่อง’ ตามการวิเคราะห์เชิงเทคนิค พบการเกิด ‘ภาวะแตกต่างในขาลง’ (bearish divergence) ซึ่งหมายความว่าแม้ราคาจะปรับตัวขึ้นในบางช่วง แต่แรงหนุนจากฝั่งซื้อกลับไม่แข็งแกร่งพอ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนว่าตลาดยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากฝั่งขาย
ขณะนี้ XRP เคลื่อนไหวภายในกรอบ ‘แนวโน้มขาลง’ โดยแม้จะมีการฟื้นตัวในระยะสั้น แต่แนวทางโดยรวมยังไม่พลิกกลับสู่ขาขึ้น สัญญาณการกลับตัวจะมีน้ำหนักมากขึ้นหากสามารถทะลุแนวต้านที่สำคัญและสร้างแรงส่งราคาที่ชัดเจนขึ้น
ระดับราคาที่นักลงทุนจับตาในเวลานี้ ได้แก่ ‘แนวต้านหลัก’ ที่บริเวณ 2.33–2.35 ดอลลาร์, 2.45–2.50 ดอลลาร์ และ 2.60 ดอลลาร์ ส่วน ‘แนวรับสำคัญ’ อยู่ที่ 2.16 ดอลลาร์, 2.05 ดอลลาร์ และ 1.80 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดพิจารณาทางเทคนิคสำหรับการวางแผนกลยุทธ์ในระยะสั้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความผันผวนให้ตลาดคือการปลดล็อก XRP จำนวน 1 พันล้านโทเคน (คิดเป็นมูลค่าราว 22,000 ล้านดอลลาร์) โดยบริษัทริปเปิล เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ตามข้อมูลจาก Whale Alert ระบุว่า การปลดล็อกในครั้งนี้เกิดขึ้นล่าช้าจากกำหนดปกติซึ่งมักจะมีขึ้นในวันที่ 1 ของทุกเดือน โดยแบ่งการปลดล็อกออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 500 ล้าน XRP (11,000 ล้านดอลลาร์), 300 ล้าน XRP (6,600 ล้านดอลลาร์) และ 200 ล้าน XRP (4,400 ล้านดอลลาร์)
แม้กระบวนการปลดล็อก XRP จะเป็นไปตามแผนปกติของริปเปิล แต่การล่าช้าในรอบนี้ทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุน โดย *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของอุปทานในตลาดอาจเป็นหนึ่งในแรงกดดันที่ฉุดราคาของ XRP ลงต่อเนื่องในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0