ราคาบิตคอยน์(BTC) กำลังกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังมีการคาดการณ์ว่า ‘ทองคำ’ อาจพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเทียบเท่าราว 730,000 บาท โดยนักวิเคราะห์มองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลบวกไปถึงแนวโน้มระยะกลางถึงยาวของบิตคอยน์ ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็น ‘ทองคำดิจิทัล’
มุมมองขาขึ้นต่อราคาทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในวงการการเงินอย่าง เอ็ด ยาร์เดนี(Yardeni Research) และมหาเศรษฐีนักลงทุน จอห์น พอลสัน(John Paulson) ซึ่งประเมินว่าราคาทองคำอาจแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ได้ภายในปี 2025 และ 2028 ตามลำดับ
หากทองคำสามารถเข้าสู่ช่วงขาขึ้นได้จริง มีความเป็นไปได้สูงว่าบิตคอยน์จะได้รับ ‘อานิสงส์’ จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกัน ย้อนกลับไปในช่วงเดือนมีนาคม 2020 ถึงมีนาคม 2022 ที่เฟดดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณอย่างเข้มข้น ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นกว่า 1,110% ขณะที่ทองคำเพิ่มขึ้นเพียง 35.5% เท่านั้น ชี้ให้เห็นถึงช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างสองสินทรัพย์นี้ ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนแตกต่างกันมากถึง 6 เท่าในช่วงเวลาดังกล่าว
แนวโน้มนี้ชี้ให้เห็นว่า หากราคาทองคำเดินหน้าสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง บิตคอยน์ก็อาจกลับมาแสดงให้เห็นถึง ‘รูปแบบผลตอบแทนเชิงประวัติศาสตร์’ อีกครั้งเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากปัจจัยมหภาคในปัจจุบัน เช่น การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ และการขยายตัวของสภาพคล่องทั่วโลก ซึ่งล้วนเป็นเงื่อนไขที่เอื้อต่อสินทรัพย์อย่างทองคำและบิตคอยน์
บิตคอยน์นั้นถูกยอมรับในสถานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ มานานแล้ว หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงมีความเป็นไปได้ที่บิตคอยน์อาจสร้างผลตอบแทนได้ดียิ่งกว่า ซึ่งความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจระดับโลกในปัจจุบันคล้ายกับช่วงที่บิตคอยน์เคยแสดงศักยภาพสูงสุด
เมื่อสินทรัพย์ทั้งสองตอบรับปัจจัยเช่น ‘ดอลลาร์อ่อน’, ‘สภาพคล่องเพิ่มขึ้น’ และ ‘ความไม่แน่นอนของตลาด’ ได้ดี นักลงทุนจึงควรพิจารณาการจัดพอร์ตให้ครอบคลุมทั้งทองคำและบิตคอยน์ โดยเฉพาะในกรณีที่ ‘ทรัมป์’ ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐและดำเนินนโยบายที่ผลักดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอีก ก็อาจเป็นแรงผลักดันสำคัญสำหรับตลาดสินทรัพย์ทางเลือกอย่างบิตคอยน์เช่นกัน
ความคิดเห็น 0