ศาลแขวงสหรัฐฯ เขตทางใต้ของนิวยอร์ก มีคำพิพากษาให้ อเล็กซ์ มาชินสกี(Alex Mashinsky) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเซลเซียส(Celsius) รับโทษจำคุก 12 ปีในข้อหาฉ้อโกงจากกรณีที่เขามีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ล้มละลายของบริษัทคริปโตชื่อดัง
ทีมทนายความของมาชินสกีพยายามขอให้ศาลลดโทษ โดยให้เหตุผลว่าเขามีประวัติการรับใช้ชาติ ไม่มีคดีอาชญากรรมมาก่อน และยินดีให้ความร่วมมือในกระบวนการสอบสวน อย่างไรก็ตาม อัยการกลางยังคงยืนกรานเมื่อวันที่ 28 เมษายน ว่าให้ลงโทษสูงสุดถึง 20 ปี เนื่องจากการกระทำของมาชินสกีเป็น "การหลอกลวงโดยเจตนา" ซึ่งสร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ผู้ลงทุน
ก่อนการตัดสิน ตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่ามาชินสกีอาจหลีกเลี่ยงโทษหนัก โดยข้อมูลจากแพลตฟอร์มการพยากรณ์เหตุการณ์อย่างโพลีมาร์เก็ต(Polymarket) เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม – เพียงวันเดียวก่อนการพิพากษา – ระบุว่าโอกาสที่เขาจะถูกจำคุกเกิน 20 ปี มีเพียง *11%* ซึ่งแม้คำพิพากษาสุดท้ายจะไม่รุนแรงเท่าที่อัยการเรียกร้อง แต่ก็ถือว่าเป็นโทษที่หนักพอสมควร
มาชินสกีเคยเป็นบุคคลสำคัญในวงการคริปโต ก่อนที่จะตกเป็นผู้ต้องหาเมื่อเซลเซียสยื่นล้มละลายเมื่อปี 2022 โดยเขาถูกกล่าวหาว่าใช้ข้อความเท็จเพื่อหลอกลวงลูกค้า จูงใจให้ฝากสินทรัพย์คริปโตเข้ามาในระบบ ก่อนที่จะนำเงินเหล่านั้นไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูง ส่งผลให้ผู้ใช้งานจำนวนมากขาดทุนอย่างหนัก คดีความเกี่ยวกับความรับผิดของมาชินสกียืดเยื้อมาตั้งแต่นั้น
การตัดสินโทษในครั้งนี้ถูกมองว่าไม่ใช่แค่บทลงโทษต่อมาชินสกี แต่ยังเป็น ‘คำเตือน’ จากหน่วยงานตุลาการของสหรัฐฯ ต่อทั้งอุตสาหกรรมคริปโตว่า “พฤติกรรมที่หลอกลวงผู้ลงทุนจะได้รับการปฏิบัติโดยมีมาตรฐานเดียวกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม” *ความคิดเห็น*: แนวทางนี้สะท้อนความเข้มงวดต่อความปลอดภัยของนักลงทุนในโลกคริปโตที่ยังขาดการกำกับดูแลอย่างชัดเจน.
ความคิดเห็น 0