เมื่อวันที่ 15 (เวลาท้องถิ่น) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอันดับสามของโลกอย่าง *คอยน์เบส(Coinbase)* เปิดเผยว่า บริษัทตกเป็นเป้าโจมตีจากกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่พยายามใช้ข้อมูลผู้ใช้จำนวนหนึ่งเพื่อเรียกค่าไถ่มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท (ประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยการโจมตีดังกล่าวมีลักษณะเป็นการวางแผนเป็นระบบจากภายนอก ซึ่งเริ่มต้นจากการล่อลวงพนักงานฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัทคู่สัญญาในต่างประเทศให้เปิดช่องเข้าถึงระบบภายใน
ในแถลงการณ์ผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการ คอยน์เบสระบุว่า กลุ่มผู้โจมตีร่วมกับพนักงานชั่วคราวหลายรายที่ทำงานด้านบริการลูกค้า เพื่อเข้าถึงข้อมูลบางส่วนของบัญชีผู้ใช้ โดยข้อมูลที่ถูกเข้าถึงนั้น ‘จำกัด’ และไม่ใช่ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น รหัสผ่าน, กุญแจส่วนตัว, สินทรัพย์ดิจิทัล หรือบัญชี *คอยน์เบส ไพรม์(Coinbase Prime)*
*คอยน์เบส* ยืนยันว่า บัญชีที่ได้รับผลกระทบมีไม่ถึง 1% ของผู้ใช้ที่ใช้งานต่อเดือน และทางบริษัทยังได้ดำเนินการตอบสนองต่อเหตุการณ์อย่างทันท่วงที ทั้งในด้านการป้องกันข้อมูลลูกค้าเพิ่มเติม และการยุติสัญญากับพนักงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย
*ความคิดเห็น*: ในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีทรัมป์มีท่าทีสนับสนุนแนวทางด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เหตุดังกล่าวยิ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นในการยกระดับมาตรการคุ้มครองข้อมูลภายในธุรกิจการเงินและเทคโนโลยี โดยเฉพาะความเสี่ยงที่มาจากบุคคลภายในองค์กรเองซึ่งกลายเป็นประเด็นสำคัญอย่างต่อเนื่อง
ด้าน *คอยน์เบส* ย้ำจุดยืนว่า จะไม่ยินยอมต่อการข่มขู่เรียกค่าไถ่ และจะเดินหน้าพัฒนาระบบความปลอดภัย พร้อมเพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ความคิดเห็น 0