บิตคอยน์(BTC) อาจพุ่งแตะ 1 ล้านดอลลาร์ภายใน 3 ปีข้างหน้า ตามการคาดการณ์ล่าสุดของ อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง บิทเม็กซ์(BitMEX) โดยเขาระบุผ่านบล็อกส่วนตัวเมื่อวันที่ 15 ว่า ความไม่มั่นคงของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและการเพิ่มขึ้นของมาตรการควบคุมเงินทุนทั่วโลก คือแรงผลักดันสำคัญที่อาจหนุนให้ราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นระดับ ‘เจ็ดหลัก’
เฮย์สชี้ว่า แนวโน้มการนำเงินทุนกลับประเทศ (foreign capital repatriation) และการลดลงของมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะกลายเป็น ‘พลังหลัก’ ที่เปลี่ยนสมดุลของตลาดการเงินโลก โดยภายในปี 2028 บิตคอยน์จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูงระดับ 7 หลัก เขายังเน้นว่าความเชื่อมั่นในระบบการเงินแบบดั้งเดิมที่ถูกบั่นทอนลงเรื่อย ๆ กำลังทำให้นักลงทุนจำนวนมากหันเหไปสู่การถือครอง ‘สินทรัพย์ทางเลือก’ และมองบิตคอยน์เป็นทางออกที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะเดียวกัน เฮย์สกล่าวว่า แนวโน้มการ ‘ควบคุมสินทรัพย์บุคคล’ กำลังเติบโตอย่างโดดเด่นในยุโรป โดยเขาสนับสนุนให้ประชาชนมอง ‘บิตคอยน์’ เป็นเครื่องมือเพื่อเอาตัวรอดจากวงจรการควบคุมเงินทุน พร้อมเสนอแนะว่าการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ใช่เพียงการเก็บมูลค่าอีกต่อไป แต่ยังเป็น ‘ที่หลบภัยทางเศรษฐกิจ’ ในยุคที่ไม่แน่นอน
ความคิดเห็นจากเฮย์สได้รับเสียงตอบรับมากขึ้นในแวดวงคริปโต โดยเริ่มมีผู้เล่นในตลาดให้ความเห็นว่า ราคา ‘บิตคอยน์ 7 หลัก’ ไม่ได้เป็นแค่จินตนาการ แต่เป็น ‘ฉากทัศน์ที่มีความเป็นไปได้สูง’ ในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์ รวมถึงการใช้จ่ายด้านการคลังของสหรัฐที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปีข้างหน้า
ทั้งนี้ แวดวงคริปโตมองว่า ทิศทางของนโยบายการเงินโลก และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า จะเป็นตัวแปรหลักที่กำหนดสถานะของบิตคอยน์ในระบบเศรษฐกิจโลก ความเห็นของเฮย์สจึงนับว่าสะท้อนกระแสการประเมิน ‘คุณค่าเชิงกลยุทธ์’ ของบิตคอยน์ในมุมมองของนักลงทุนยุคใหม่ได้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0