อีเธอเรียม(ETH) กำลังดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้งหลังจากราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เดิมที ETH เคยร่วงลงไปแตะระดับ 2,132 ดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นกลับดีดตัวขึ้นถึง 5.5% ปัจจุบันกำลังซื้อขายอยู่ที่ราว 2,728 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้ว่าสาเหตุหลักที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นของราคารอบนี้คือกระแส ‘คาดการณ์การอนุมัติ ETF’ การสะสมเหรียญครั้งใหญ่ของวาฬ และการขยายตัวของโซลูชันเลเยอร์ 2
**ความคาดหวังต่อ ETF กระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาด**
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาครั้งนี้คือข่าวเกี่ยวกับกองทุน ETF ของ 21Shares ซึ่งกำลังรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) โดย Cboe BZX ได้ยื่นคำขอสนับสนุนการ ‘สเตกกิ้ง’ สำหรับ ETF นี้ หากได้รับไฟเขียวจาก SEC กองทุนสถาบันจะสามารถถือครองอีเธอเรียมและรับดอกเบี้ยจากการสเตกกิ้ง ซึ่งอาจช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาด และขณะนี้นักลงทุนต่างจับตาผลการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นภายใน 240 วัน
**การสะสมเหรียญครั้งใหญ่ของวาฬกดดันอุปทานในตลาด**
ข้อมูลจากออนเชนเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเคลื่อนย้ายอีเธอเรียมกว่า 600,000 เหรียญเข้าสู่กระเป๋าสตางค์ของนักลงทุนรายใหญ่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ 'วาฬ' ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การเคลื่อนย้ายเหรียญจำนวนมากออกจากตลาดแลกเปลี่ยนมักส่งผลให้แรงกดดันด้านอุปทานลดลง ส่งผลให้ราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ข้อนี้ถือเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายใหญ่มีมุมมองเชิงบวกกับอนาคตของอีเธอเรียม
**การเติบโตของเลเยอร์ 2 ส่งเสริมการใช้งานอีเธอเรียม**
อีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นราคาคือการขยายตัวของโครงการเลเยอร์ 2 บนเครือข่ายอีเธอเรียม โดยเมื่อไม่นานมานี้ เทเธอร์(USDT) ได้เลือกใช้ ‘อาร์บิทรัม(Arbitrum)’ เพื่อลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม ซึ่งการนำโซลูชันเหล่านี้มาใช้มากขึ้นช่วยผลักดันให้อีเธอเรียมสามารถรองรับผู้ใช้งานและธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
**ราคามีโอกาสแตะ 3,000 ดอลลาร์หรือไม่?**
ในมุมมองทางเทคนิค อีเธอเรียมได้แสดงให้เห็นถึงแนวรับที่แข็งแกร่งในช่วง 2,200 ดอลลาร์ และพยายามปรับขึ้นมาโดยตลอด ขณะนี้ หากสามารถทะลุระดับ 2,817 – 3,000 ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสเปิดทางไปสู่การปรับตัวขึ้นต่อ แม้จะมีโอกาสทำกำไรในระยะสั้น แต่เครื่องมือวิเคราะห์อย่าง RSI และ Stochastic Oscillator บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการปรับฐาน ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ
ท้ายที่สุด การอนุมัติ ETF และพฤติกรรมการลงทุนของสถาบันอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาอีเธอเรียมให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ความผันผวนระยะสั้นยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0