เจมส์ วิน นักลงทุนคริปโตผู้กล้าบุกหนักในตลาด ด้วยการเปิดสถานะ *ถือครองยาว (Long Position)* ของบิตคอยน์(BTC) มูลค่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับต้องเผชิญกับความสูญเสียมหาศาล หลังราคาบิตคอยน์ร่วงแรง จนถูกปิดสถานะ (Liquidation) สูญเงินไปกว่า 118 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,616 พันล้านวอน
ตามข้อมูลจากอาร์แคม อินเทลลิเจนซ์ (Arkham Intelligence) พบว่าวินถูกปิดสถานะไปแล้ว 4 ครั้ง คิดเป็นจำนวนรวม 1,134 BTC คิดมูลค่ากว่า 118.8 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน เขายังมีสถานะที่ยังไม่ถูกปิดในแพลตฟอร์ม *กระจายอำนาจ (DEX)* อย่างไฮเปอร์ลิควิด (Hyperliquid) ซึ่งใช้เลเวอเรจสูงถึง 40 เท่า พร้อมประเมินผลขาดทุนไว้ราว 4.7 ล้านดอลลาร์
วินได้เพิ่มตำแหน่งลงทุนอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 7 วัน จาก 390 ล้านดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ 1.1 พันล้านดอลลาร์ โดยใช้เลเวอเรจ 40 เท่า เมื่อตลาดบิตคอยน์ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 111,970 ดอลลาร์ในวันที่ 22 พฤษภาคม เขามีกำไรที่ยังไม่ปิดตำแหน่งมูลค่าเกือบ 39 ล้านดอลลาร์
แม้ในวันที่ 24 พฤษภาคม บิตคอยน์เคลื่อนไหวระหว่าง 108,000 ถึง 109,000 ดอลลาร์ แต่เขายังคงเดินหน้าขยายสถานะจนแตะ 1.25 พันล้านดอลลาร์ แม้ข้อมูล *ออนเชน (On-chain)* จะส่งสัญญาณเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มขาขึ้น แต่นโยบายเศรษฐกิจระดับมหภาคกลับพลิกทิศทางของตลาด ทำให้ราคาปรับตัวลง
สถานะของวินถูกปิดอย่างต่อเนื่องเมื่อราคาบิตคอยน์แตะระดับ 106,330 ดอลลาร์, 104,950 ดอลลาร์, 104,150 ดอลลาร์ และ 104,620 ดอลลาร์ตามลำดับ ขณะนี้ บิตคอยน์อยู่ที่ระดับ 105,093 ดอลลาร์ ลดลงประมาณ 2.5% ภายใน 24 ชั่วโมง
วินได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย *X* ระบายความไม่พอใจ โดยระบุว่า “สิ่งนี้พิสูจน์แล้วว่า *ตลาดเต็มไปด้วยการบิดเบือนและไม่โปร่งใส*” พร้อมเสริมว่า “*ทางที่ดีที่สุดคือนำบิตคอยน์ไปเก็บไว้ในกระเป๋าเก็บแบบออฟไลน์ (Cold Wallet)* แทนการเล่นด้วยกลยุทธ์เหล่านี้”
*ความคิดเห็น*: กรณีของวินสะท้อนความเสี่ยงสูงของการใช้เลเวอเรจเกินตัว แม้ตลาดจะดูมีแนวโน้มดี แต่ความผันผวนที่เหนือความคาดหมายก็สามารถสร้างหายนะได้ในพริบตา
ความคิดเห็น 0