โครงการเนียร์โปรโตคอล(NEAR Protocol) เตรียมบรรลุความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมได้ถึง *ล้านธุรกรรมต่อวินาที* ภายในปีนี้ ตามการประกาศของโบเวน หวาง(Bowen Wang) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาของเนียร์วัน(NEAR One) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้าน R&D ของโปรโตคอลดังกล่าว เขายืนยันว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะเป็นก้าวสำคัญในการปฏิวัติศักยภาพของอุตสาหกรรมบล็อกเชน
โบเวน หวาง เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า *"ภายในปีนี้ เนียร์โปรโตคอลจะสามารถรองรับธุรกรรมได้ถึง 1 ล้านรายการต่อวินาทีบนเทสต์เน็ต"* โดยระบุว่าความสามารถนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของสถาปัตยกรรม ‘ชาร์ดดิ้ง’ ซึ่งจะเตรียมความพร้อมสำหรับการรองรับการใช้งานจำนวนมากจาก *เอเจนต์ AI* ในอนาคต
เนียร์โปรโตคอลกำลังดำเนินการด้วยโครงสร้าง *ไนท์เชด 2.0* ซึ่งเป็นรูปแบบ *ชาร์ดดิ้ง* ที่แบ่งบล็อกเชนออกเป็นเชนย่อยๆ หลายเส้น ทำให้ระบบสามารถประมวลผลข้อมูลแบบขนานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับอนาคต ทีมงานมีแผนจะเปลี่ยนไปใช้โมเดล ‘*ไดนามิกรีชาร์ดดิ้ง*’ ที่สามารถแบ่งหรือรวมชาร์ดโดยอัตโนมัติตามปริมาณการใช้งานบนเครือข่าย
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือแนวคิดในการแทนที่การพิสูจน์สถานะ(block state) ด้วย *ซีโร่ นอลเลดจ์ พรูฟ(zk-proof)* แทนการใช้งานแบบ *Merkle proof* เพื่อช่วยลดการใช้แบนด์วิดท์เครือข่ายและเวลาในการยืนยัน ทำให้เครือข่ายทำงานได้เร็วและประหยัดทรัพยากรยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้เนียร์โปรโตคอลจะจับมือเป็นพันธมิตรกับ *DWF Labs* บริษัทผู้ดูแลสภาพคล่องรายใหญ่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่บางเสียงในแวดวงคริปโตยังคงตั้งคำถามถึงจำนวนผู้ใช้งานจริงบนแพลตฟอร์ม ที่ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งกลายเป็นข้อโต้แย้งต่อความเหมาะสมในการรีบเร่งแสดงศักยภาพทางเทคนิคเช่นนี้
‘เนียร์โปรโตคอล(NEAR)’ จึงยังคงเป็นหนึ่งในโครงการที่น่าจับตามองสำหรับการแข่งขันด้านนวัตกรรมและความสามารถในการขยายตัวของบล็อกเชนในระดับสูงสุด ขณะที่ผู้ใช้งานยังต้องติดตามว่า ความก้าวหน้าเชิงเทคนิคนี้จะสอดคล้องกับการนำไปใช้งานจริงได้มากเพียงใด *ความคิดเห็น*
ความคิดเห็น 0