ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารใหม่ว่าด้วยการกำหนด ‘ภาษีตอบโต้’ ต่อประเทศที่มีนโยบายการค้าซึ่งไม่เป็นธรรม โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีในอัตราเดียวกับที่ประเทศเหล่านั้นเก็บจากสินค้าอเมริกัน
หลังจากลงนาม ทรัมป์กล่าวกับสื่อมวลชนว่า "ถ้าพวกเขาเก็บภาษีเราที่เท่าไร เราก็จะทำแบบเดียวกัน นี่คือหลักความยุติธรรม" นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวกำหนดให้ ฮาวเวิร์ด รูทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และสก็อตต์ เบเซนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดำเนินการตรวจสอบและจัดทำรายงานเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการนี้
รูทนิคเปิดเผยว่า รายงานฉบับดังกล่าวมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 เมษายน และจะเป็นตัวกำหนดว่า สหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายภาษีตอบโต้ในทางปฏิบัติหรือไม่ โดยเขากล่าวเพิ่มเติมว่า "หากชาติอื่นลดภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศจะแข่งขันได้ดีขึ้น อุตสาหกรรมภายในประเทศจะขยายตัว และต้นทุนการผลิตจะลดลง"
คำสั่งบริหารนี้ถูกประกาศออกมาหลังจากที่สหรัฐฯ เพิ่งเปิดเผยมาตรการภาษีใหม่กับจีน เม็กซิโก และแคนาดา อย่างไรก็ตาม การเก็บภาษีจากเม็กซิโกและแคนาดายังอยู่ในช่วงพิจารณาและจะถูกชะลอออกไปจนถึงวันที่ 1 มีนาคม
ตลาดคริปโตเคอเรนซีและตลาดหุ้นได้รับผลกระทบอย่างมากจากนโยบายภาษีของทรัมป์ในอดีต และครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศ ค่าของ ‘บิตคอยน์(BTC)’ ร่วงลงต่ำกว่า $100,000 และ ‘อีเธอเรียม(ETH)’ เผชิญกับการชำระบัญชีครั้งใหญ่ถึง $2.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.19 ล้านล้านวอน) อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทรัมป์ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 30 วัน บิตคอยน์ดีดกลับมาที่ระดับ $101,731
ในอดีต เมื่อนโยบายภาษี 25% ต่อการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของทรัมป์ถูกประกาศ บิตคอยน์ก็เคยปรับตัวลดลงจาก $97,000 เหลือ $94,000 ก่อนจะฟื้นตัวภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
นักวิเคราะห์ตลาดมองว่า แม้มาตรการนี้จะสร้าง ‘ความไม่แน่นอน’ ในระยะสั้น แต่หากช่วยให้สภาพแวดล้อมทางการค้าดีขึ้นในระยะยาว ก็อาจส่งผลบวกต่อตลาดคริปโตและภาคการเงินโดยรวม
ความคิดเห็น 0