แรงกดดันทางภาษีจากประธานาธิบดีทรัมป์กลายเป็นประเด็นที่น่าจับตาสำหรับผู้สนับสนุน *บิตคอยน์(BTC)* หลังนักวิเคราะห์ตลาดคริปโตเตือนว่า ความผันผวนที่เกิดจากนโยบายภาษีซ้ำซากอาจส่งผลกระทบต่อ *บิตคอยน์* และสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม (เวลาท้องถิ่น) ผลกระทบจากนโยบายการค้าของ *ทรัมป์* เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกโดย พาฟ ฮุนดาล(Pav Hundal) นักวิเคราะห์อาวุโสจากสวี้ฟท์เอ็กซ์(Swyftx) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตของออสเตรเลีย ซึ่งระบุว่า หากสหรัฐยังคงใช้ยุทธศาสตร์ ‘ข่มขู่ด้วยภาษี’ ต่อเนื่องในช่วงสองเดือนข้างหน้า ตลาดคริปโตมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะชะงักงัน ซึ่ง "จะเป็นภัยต่อแนวโน้มขาขึ้นของ *บิตคอยน์* มากที่สุด"
ประเด็นที่น่ากังวลอีกอย่างคือ หากธนาคารกลางสหรัฐ (*เฟด*) ยังคงรอดูผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภาษี ก่อนตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้ออาจทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงหมดแรงหนุนสำคัญ ฮุนดาลกล่าวเสริมว่า “การคาดหวังถึงการลดดอกเบี้ยของ *เฟด* เคยเป็นแรงผลักดัน *บิตคอยน์* และคริปโตมาระยะหนึ่งแล้ว แต่หากความไม่แน่นอนทางการเมืองลากยาว อาจกลับมากดดันการเติบโตอีกครั้ง”
วันเดียวกันนั้น *เฟด* ตัดสินใจ ‘คง’ อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25–4.50% โดยอ้างเหตุผลเรื่องการตกงานที่สูงขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจไม่ลดดอกเบี้ยเร็วอย่างที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า
"ในภาวะแบบนี้ ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยง หากเสียงของฝ่าย ‘หมี’ หรือผู้มองขาลงเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น อาจทำให้ราคา *บิตคอยน์* หลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์ (ราว 1.39 ล้านบาท) ลงมาอีกครั้ง" ฮุนดาลกล่าวเตือน
เนื่องจาก *บิตคอยน์* ถือเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ตอบสนองไวต่อปัจจัยอย่างสภาพคล่องทั่วโลก ทิศทางดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนทางการเมือง จึงทำให้นโยบายต่างประเทศของ *ทรัมป์* กลายเป็นปัจจัยแฝงที่อาจกำหนดทิศทางตลาดคริปโตในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องระวังทั้งความคาดหวังและความวิตกในระดับสูงพอๆ กัน
ความคิดเห็น 0