โกลด์แมนแซคส์(Goldman Sachs) กลับลำ ทุ่มซื้อ ETF บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH)
โกลด์แมนแซคส์(Goldman Sachs) ได้เปลี่ยนท่าทีต่อสกุลเงินดิจิทัลด้วยการเข้าซื้อกองทุน ETF บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ในปริมาณมหาศาล ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อคริปโต
ตามเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) โกลด์แมนแซคส์ได้ลงทุน 1.28 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 46,080 ล้านบาท) ในกองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ขณะที่ Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund ได้รับเงินลงทุนเพิ่มอีก 288 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 10,368 ล้านบาท) นอกจากนี้ โกลด์แมนแซคส์ยังถือครองสินทรัพย์ใน Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) มูลค่า 3.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 129.6 ล้านบาท)
อีเธอเรียมก็ได้รับความสนใจจากสถาบันการเงินดังกล่าวเช่นกัน โดยปริมาณการถือครอง ETF อีเธอเรียมของโกลด์แมนแซคส์เพิ่มขึ้นจาก 22 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 792 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 เป็น 476 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17,136 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 2,000% โดยการลงทุนนี้กระจายไปยัง iShares Ethereum Trust ของแบล็คร็อก(BlackRock) และกองทุนอีเธอเรียมของ Fidelity
โกลด์แมนแซคส์เริ่มเข้ามาในตลาดคริปโตอย่างจริงจังตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 เมื่อบริษัทลงทุน 4.18 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 15.05 ล้านล้านบาท) ในกองทุนบิตคอยน์ นักวิเคราะห์มองว่าการเข้าซื้อจำนวนมากในช่วงปลายปี 2024 เกิดขึ้นจากการคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะส่งเสริมแนวทางคริปโตที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจ นโยบายของทรัมป์รวมถึงแผนผลักดันให้สหรัฐกลายเป็นศูนย์กลางบล็อกเชนระดับโลก
นอกจากโกลด์แมนแซคส์แล้ว บริษัทญี่ปุ่นก็เริ่มเพิ่มการถือครองบิตคอยน์เช่นกัน เมตาแพลนเน็ต(Metaplanet) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ได้เห็นราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 4,800% ภายในหนึ่งปีนับตั้งแต่เริ่มเข้าซื้อบิตคอยน์ในเดือนเมษายน 2024 ปัจจุบัน ณ มกราคม 2025 บริษัทถือครอง 1,762 BTC (มูลค่าประมาณ 171 ล้านดอลลาร์ หรือ 6,156 ล้านบาท) และมีแผนเพิ่มการถือครองเป็น 21,000 BTC ภายในปี 2026
ด้านบริษัทเกมญี่ปุ่น กูมิ(Gumi) เพิ่งลงทุน 1 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 2,300 ล้านบาท) ในบิตคอยน์ และได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจโดยนำบิตคอยน์ไปใช้ในแพลตฟอร์มสเตกกิ้งของ Babylon เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม
การเข้าลงทุนของสถาบันการเงินในสกุลเงินดิจิทัลยังส่งผลต่อการเติบโตของตลาดสเตเบิลคอยน์ USD คอยน์(USDC) ของ Circle มีมูลค่าตลาดพุ่งขึ้นเป็น 56.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท) โดยเติบโตขึ้นกว่า 23% ตั้งแต่พฤศจิกายน 2023
แม้ว่าตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความผันผวนในระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าการเข้ามาของสถาบันการเงินรายใหญ่จะช่วยเสริมความมั่นคงในระยะยาว และอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาตลาดคริปโตสู่กระแสหลัก
ความคิดเห็น 0